Sunday, November 28, 2004

A CHILD IN THE CROWD (GERARD BLAIN, A+)

NIKOLAJ COSTER-WALDAU ค่ะ เกิดวันที่ 27 ก.ค. 1970 เป็นชาวเดนมาร์ค

ผลงานการแสดงของเขาที่พอหาดูได้ในไทย

1.BLACK HAWK DOWN (2001, RIDLEY SCOTT, B+)
เรื่องนี้หนุ่มหล่อๆเยอะดีแต่แทบไม่ได้ขายความหล่อของดาราที่มาเล่นเลย ก็เลยทำให้ดิฉันผิดหวังเล็กน้อย อิอิอิ

2.ENIGMA (2001, MICHAEL APTED, A-)
เรื่องนี้น่าจะหาวีซีดีลิขสิทธิ์ดูได้ไม่ยากนัก ในหนังเรื่องนี้ นอกจากเราจะได้เห็นความหล่อของ NIKOLAJ COSTER-WALDAU แล้ว เรายังได้ชื่นชมความหล่อของ JEREMY NORTHAM และความน่ารักของ DOUGRAY SCOTT ด้วย

3.BENT (1997, SEAN MATHIAS, A+++++++++)
อันนี้เป็นหนังเกย์ที่อาจจะหาซื้อได้ตามร้านบางร้าน ในหนังเรื่องนี้ NIKOLAJ COSTER-WALDAU รับบทเป็นเกย์ค่ะ โดยมี CLIVE OWEN กับ RUPERT GRAVES มาร่วมแสดงเป็นเกย์ในเรื่องนี้ด้วย และมี JUDE LAW กับ PAUL BETTANY มารับบทเล็กๆ

ในเรื่อง WIMBLEDON ดิฉันชอบทั้งพระเอก, เพื่อนพระเอก, น้องชายพระเอก และก็ศัตรูของพระเอกค่ะ แต่ถ้าให้เลือกคนเดียว ดิฉันก็เลือกเพื่อนพระเอกค่ะ

บทน้องชายพระเอกแสดงโดย JAMES MCAVOY (เกิดปี 1979) หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างดีเพราะเขาเคยเล่นหนังเรื่อง BRIGHT YOUNG THINGS (A+), THE POOL, REGENERATION (1997, GILLIES MACKINNON) รวมทั้งเล่นมินิซีรีส์เรื่อง CHILDREN OF DUNE และ BAND OF BROTHERS (รับบทเป็น Pvt. James Miller) ส่วนบทศัตรูพระเอกแสดงโดย AUSTIN NICHOLS (เกิดปี 1980) ก่อนหน้านี้เขาเคยเล่นหนังเรื่อง THE DAY AFTER TOMORROW (B-) และ HOLIDAYS IN THE SUN (C+)
ได้ลองเข้าไปอ่านข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่อง SYBIL (1976, DANIEL PETRIE) แล้วน่าสนใจมากๆเลยค่ะ เป็นหนังที่น่าดูมากๆเลย เพราะในเรื่องนี้ SALLY FIELD รับบทเป็นหญิงที่มี 16 บุคลิกภาพ และมีโจแอนน์ วูดเวิร์ดรับบทเป็นจิตแพทย์ (ก่อนหน้านี้โจแอนน์ วูดเวิร์ดเคยรับบทเป็นผู้หญิงที่มี 3 บุคลิกภาพมาแล้วในหนังเรื่อง THE THREE FACES OF EVE (1957, NUNNALLY JOHNSON)) และมีสุดหล่อ BRAD DAVIS มาร่วมเล่นหนังนี้ด้วย


ยังไม่ได้ดูเรื่อง DAS BOOT เลยค่ะ และก็นึกถึงหนังที่ทำให้เห็นใจฝ่ายเยอรมนี, ญี่ปุ่น หรือฝ่ายอักษะไม่ค่อยออกเหมือนกัน แต่รายชื่อหนังข้างล่างนี้อาจจะพอเข้าข่ายได้บ้าง เพราะหนังเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าประชาชนเยอรมันและอิตาลีบางคนก็ตกเป็นเหยื่อรัฐบาลของตัวเองในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเหมือนกัน ไม่ใช่ประชาชนเยอรมันหรืออิตาลีทุกคนที่เข้าข้างรัฐบาลของตัวเองอย่างเต็มที่ในการก่อสงคราม พวกเขาซวยที่เกิดมาในประเทศที่มีรัฐบาลเลวๆ

1.STALINGRAD (1993, JOSEPH VILSMAIER, A-/B+)

หนังสร้างโดยชาวเยอรมัน และเล่าถึงความลำบากยากแค้นแสนเข็ญที่ทหารเยอรมันต้องประสบขณะไปรบท่ามกลางฤดูหนาวในรัสเซีย หนังเรื่องนี้ไม่ได้เข้าข้างรัฐบาลนาซี แต่แสดงให้เห็นว่าทหารเยอรมันซึ่งไม่ได้เป็นคนออกนโยบายสงคราม ก็ประสบกับความทุกข์เข็ญจากการตัดสินใจของรัฐบาลนาซีเช่นกัน

2.TWIN SISTERS (2002, BEN SOMBOGAART, A-)

หนังเรื่องนี้ทำให้เห็นใจทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายประชาชนชาวเยอรมันในช่วงสงคราม และฝ่ายที่ไม่มีวันยอมให้อภัยชาวเยอรมันเพราะชาวเยอรมันฆ่าคนที่ตัวเองรัก

3.HITLER: A FILM FROM GERMANY (1978, HANS-JURGEN SYBERBERG, A+)

หนังความยาว 7 ชั่วโมงเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ดิฉันรู้สึกเห็นใจฮิตเลอร์ แต่จุดหนึ่งที่ตัวละครในหนังเรื่องนี้ย้ำถามหลายครั้งก็คือว่าการที่ฮิตเลอร์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวมันเลวร้ายกว่าการที่ชาวสหรัฐอเมริกาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอินเดียนแดงในคริสต์ศตวรรษที่ 19 อย่างนั้นหรือ

4.CAPTAIN CORELLI’S MANDOLIN (2002, JOHN MADDEN, B)

หนังเรื่องนี้ไม่น่าพอใจนัก แต่จุดนึงที่น่าสนใจก็คือหนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นความน่าสงสารของทหารอิตาลีที่อยู่ในฝ่ายอักษะ เพราะตอนแรกพวกเขาต้องรบกับฝ่ายสัมพันธมิตร แต่พอรัฐบาลอิตาลีเปลี่ยนมาเข้าข้างฝ่ายสัมพันธมิตร ทหารอิตาลีก็ได้รับคำสั่งให้รบกับทหารเยอรมันแทน สรุปว่าทหารอิตาลีซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง

5.LIBERATORS TAKE LIBERTIES (1992, HELKE SANDER)
หนังความยาว 3 ชั่วโมงกว่าเรื่องนี้กำกับโดยผู้หญิงชาวเยอรมัน และเป็นหนังสารคดีที่บันทึกเรื่องจริงของผู้หญิงเยอรมันหลายคนที่ถูกทหารฝ่ายสัมพันธมิตรข่มขืนในช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

6.GERMANY PALE MOTHER (1980, HELMA SANDERS-BRAHMS)

ในชีวิตจริงนั้น HELMA SANDERS-BRAHMS ผู้กำกับหญิงชาวเยอรมันของหนังเรื่องนี้เคยเห็นแม่ของตัวเองถูกทหารอเมริกันข่มขืนต่อหน้าต่อตาเธอตอนที่เธอยังเป็นเด็ก ดังนั้นเมื่อเธอโตขึ้น เธอก็เลยถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตอันโหดร้ายที่ตัวเองพบในช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองลงในหนังเรื่องนี้

7.TWIST OF FATE (1989, IAN SHARP, B+)

มินิซีรีส์เรื่องนี้เคยมาฉายทางช่อง 3 เมื่อหลายปีก่อน พระเอกของหนังเรื่องนี้เป็นทหารเยอรมันยศสูงที่ปลอมตัวเป็นชาวยิวในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สองเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงคราม หนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เห็นใจนาซี แต่อาจทำให้เห็นใจพระเอกของเรื่องนี้ซึ่งเป็นทหารนาซีเพราะว่าเขาหล่อ

8.THE TURNING POINT (1983, FRANK BEYER, A+)

พระเอกของหนังเยอรมันตะวันออกเรื่องนี้ก็เป็นทหารหนุ่มหล่อชาวเยอรมันเช่นกันค่ะ เขาไม่ได้ทำความเลวร้ายอะไรมากนักในช่วงสงคราม แต่พอสงครามสิ้นสุด เขากลับถูกเข้าใจผิดว่าเคยก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงในช่วงสงคราม และเขาต้องได้รับโทษทัณฑ์อย่างหนักสำหรับความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ความหนุ่มแน่นของพระเอกหนังเรื่องนี้ทำให้ดิฉันเห็นใจเขามากๆเลยค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีหนังบางเรื่องที่นำเสนอมุมมองของคนที่เข้าข้างนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองด้วยเช่นกัน ซึ่งคนที่เข้าข้างนาซีในหลายๆกรณีก็ไม่ใช่คนที่ชั่วบริสุทธิ์ แต่เป็นเพราะว่านาซีเป็นศัตรูกับ “สตาลิน” ซึ่งเป็นทรราชย์ที่ฆ่าคนในโซเวียตตายไปหลายล้านคน หากเราต้องเลือกระหว่างนาซีกับประชาธิปไตย เราย่อมเลือกได้ง่ายๆว่าเราเลือกประชาธิปไตย แต่ถ้าหากเราไม่มีสิทธิ์เลือกประชาธิปไตย ถ้าหากตัวเลือกของเรามีเพียง “นาซี” หรือ “สตาลิน” (ซึ่งเลวร้ายกว่าเลนินมาก) มันก็ย่อมจะเลือกได้ยากมาก ชีวิตจริงในหลายๆครั้งมันก็เป็นเช่นนี้ เราไม่สามารถเลือกระหว่าง “ชั่ว” หรือ “ดี” แต่เราต้องเลือกระหว่าง “ชั่วร้าย” หรือ “เลวทราม” (ลองนึกถึงการเลือกตั้งในบางประเทศดูสิ) นอกจากนี้ โซเวียตรัสเซียในยุคก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองก็ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ของบางประเทศในยุโรปด้วย โดยเฉพาะประชาชนในฟินแลนด์และโปแลนด์ เพราะฉะนั้นการที่คนบางคนในฟินแลนด์และโปแลนด์จะหันไปเข้าข้างฝ่ายนาซี จึงเป็นสิ่งที่น่าเห็นใจอยู่เหมือนกัน

หนังที่เข้าข่ายนี้ก็อาจรวมถึง

1.ASCENT (1976, LARISA SHEPITKO)
ผู้กำกับหนังเรื่องนี้เป็นผู้หญิงค่ะ และหนังพูดถึงทหารสองคนในรัสเซียที่ถูกพวกที่ฝักใฝ่นาซีจับตัวไป
Larisa Shepitko's last film is one of the most beautiful war films in cinema history.

2.LACOMBE LUCIEN (1974, LOUIS MALLE)
หนังเรื่องนี้เล่าถึงเด็กหนุ่มคนหนึ่งในฝรั่งเศสที่หันไปสวามิภักดิ์กับทหารนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้อื้อฉาวอย่างสุดๆก็คือการที่หนังไม่ได้ตัดสินให้ตัวละครตัวนี้เป็นผู้ร้าย

3.ENIGMA (MICHAEL APTED, A-)

4.AMBUSH (1999, OLLI SAARELA, A-)
หนังเชิดชูวีรกรรมของทหารหนุ่มๆชาวฟินแลนด์ที่ต่อสู้กับทหารรัสเซียอย่างกล้าหาญในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง คาดว่าคนที่ชอบ BAND OF BROTHERS น่าจะชอบเรื่องนี้ด้วย

5. HIROSHIMA MON AMOUR (1959, ALAIN RESNAIS, A+)
6.A CHILD IN THE CROWD (1976, GERARD BLAIN, A+)
7.MALENA (2000, GIUSEPPE TORNATORE, A-)

หลังจากฝรั่งเศสเป็นอิสระจากนาซีในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวฝรั่งเศสหลายคนก็จับเพื่อนร่วมชาติที่เคยคบค้ากับนาซีไปกระทำทารุณอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ไม่ค่อยได้รับการนำเสนอในหนังบ่อยนัก

อย่างไรก็ดี ในหนังเรื่อง HIROSHIMA MON AMOUR, A CHILD IN THE CROWD และ MALENA นั้น มีตัวละครผู้หญิงบางตัวในเรื่องที่คงไม่ใช่คนเลวโดยกมลสันดาน เพียงแต่พวกเธอไปหลงรักหรือไปคบค้ากับทหารหนุ่มหล่อชาวเยอรมันที่เข้ามายึดครองประเทศของพวกเธอเท่านั้นเอง (ดิฉันคิดว่าตัวเองพอเข้าใจความรู้สึกของพวกเธอค่ะ) แต่หลังจากเยอรมันพ่ายแพ้สงคราม ผู้หญิงเหล่านี้ก็ถูกประชาชนรุมประชาทัณฑ์อย่างรุนแรง หรือไม่ก็ถูกฆ่าตาย

No comments: