Friday, November 12, 2004

TIRED COMPANIONS (ZORAN SOLOMUN, A+++++)

ดิฉันเองก็ได้ดูหนังจากภูมิภาคนี้แค่ไม่กี่เรื่องค่ะ เท่าที่ได้ดูก็มี (เรียงตามลำดับความชอบส่วนตัว)

1.BEFORE THE RAIN (1994, MILCHO MANCHEVSKI, MACEDONIA) A+

เป็นหนังที่ซึ้งมากๆค่ะ หนังพูดถึงความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติหรือศาสนาได้อย่างดีมาก และแสดงให้เห็นถึงวงจรของการแก้แค้นที่ไม่มีวันจบสิ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่พบได้ในเกือบทุกที่ของโลก และไม่แตกต่างไปจากการตีกันระหว่างนักเรียนต่างโรงเรียนในประเทศไทย หนังมี “โครงสร้าง” ที่ยอดเยี่ยมสุดๆ และได้ดาราหนุ่มหล่ออย่าง GREGOIRE COLIN กับดาราสาวมาดเข้มอย่าง Katrin Cartlidge มาร่วมแสดงด้วย

โครงสร้างของหนังเรื่องนี้เป็นวงกลม ดูแล้วตอบไม่ได้ว่าเหตุการณ์ในฉากไหนเกิดก่อนฉากไหนกันแน่ อย่างไรก็ดี ถ้าหากตัดฉากหนึ่งในหนังเรื่องนี้ออกไป คนดูจะสามารถเรียงเหตุการณ์ในเรื่องได้ทันทีว่าอะไรเกิดก่อนอะไรเกิดหลัง แต่เนื่องจากหนังเรื่องนี้มี “ฉากนั้น” อยู่ในหนัง เหตุการณ์ในเรื่องที่น่าจะนำมาจัดลำดับให้เป็นเส้นตรงได้ ก็เลยกลายเป็นวงกลมไปเลย


2.KISS OF LIFE (2003, EMILY YOUNG, หนังของประเทศอังกฤษแต่เนื้อเรื่องส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับบอสเนีย) A+

หนังที่หลอกหลอนและให้อารมณ์งดงามมากๆ เนื้อหาเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่ง (INGEBORGA DAPKUNAITE) ที่รอคอยสามี (Peter Mullan เจ้าของรางวัลสิงโตทองคำแห่งเวนิซจาก The Magdalene Sisters) กลับมาจากบอสเนีย แต่เธอกลับถูกรถชนและวิญญาณของเธอก็ติดอยู่ในมิติแปลกประหลาด ส่วนสามีของเธอก็เผชิญอุปสรรคต่างๆนานากว่าจะออกจากดินแดนนรกบอสเนียมาได้

INGEBORGA DAPKUNAITE แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมสุดๆ และ EMILY YOUNG น่าจะเป็นผู้กำกับคนสำคัญของอังกฤษในอนาคต

ดิฉันได้ดูหนังเรื่องนี้ที่เมเจอร์ซีเนเพล็กซ์ เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า ช่วงกลางปีนี้ค่ะ


3.ELVIS AND MARILYN (1998, ARMANDO MANNI, หนังอิตาลี แต่ตัวละครเดินทางผ่านแดนสงครามในยูโกสลาเวีย) A+

หนังหดหู่และซาบซึ้งดีค่ะ อารมณ์ของหนังทำได้ถึงมากๆ จัดเป็นหนังแนว “ชีวิตบัดซบ” เรื่องหนึ่ง เนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเดินทางของชายหนุ่มและหญิงสาวที่พยายามหนีจากสภาพชีวิตที่แร้นแค้น, เดินทางผ่านดินแดนที่แร้นแค้น และมาเผชิญกับความลำเค็ญในอิตาลี

ดิฉันได้ดูหนังเรื่องนี้ที่ห้างเอ็มโพเรียมเมื่อไม่กี่ปีก่อนค่ะ


4.PETERKA: YEAR OF DECISION (2002, VLADO SKAFAR, SLOVENIA) A+

รู้สึกว่าสโลเวเนียจะได้รับผลกระทบจากสงครามแบ่งแย่งเชื้อชาติในยูโกสลาเวียน้อยมาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับโครเอเชีย, บอสเนีย และโคโซโว เพราะฉะนั้น หนังสโลเวเนีย 2 เรื่องที่ดิฉันได้ดูจึงแทบไม่ได้แสดงให้เห็นผลกระทบจากสงครามสักเท่าไหร่ หนังสารคดีเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนักกระโดดสกีแชมป์โลก และนำเสนอภาพของสโลเวเนียในฐานะของประเทศที่ดูร่มรื่นน่าอยู่ไม่ใช่น้อย

หนังมาฉายที่อีจีวี เมโทรโปลิสในเดือนต.ค.ปีนี้ค่ะ


5.SPARE PARTS (2003, DAMJAN KOZOLE, SLOVENIA) A+

อย่างไรก็ดี สโลเวเนียก็ไม่ได้มีแต่ด้านที่สวยงาม หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าสโลเวเนียมีด้านมืดอยู่ด้วยเช่นกัน หนังเรื่องนี้เหมือนกับเป็น prequel ของ DIRTY PRETTY THINGS (B+) เพราะหนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับคนที่พยายามเดินทางจากดินแดนที่แร้นแค้น ผ่านเข้ามาในยุโรปตะวันออก เพื่อหวังจะเดินทางเข้าสู่ยุโรปตะวันตกต่อไป อย่างไรก็ดี หนังเรื่องนี้ไม่ได้ประนีประนอมเหมือนอย่าง DIRTY PRETTY THINGS แต่กล้านำเสนอ “มนุษย์” ได้อย่างเจ็บปวด, เศร้า และ “จริง” มากๆ

หนังเรื่องนี้มาฉายที่อีจีวี เมโทรโปลิส ในเดือนม.ค.ปีนี้ค่ะ


6.TIRED COMPANIONS (1997, ZORAN SOLOMUN, หนังเยอรมันแต่เนื้อหาเกี่ยวข้องกับสงครามในอดีตยูโกสลาเวีย) A+ (ผู้กำกับหนังเรื่องนี้เป็นชาวเซอร์เบีย)


หนังเรื่องนี้แบ่งออกเป็นตอนสั้นๆ 5 ตอน ตอนที่ 1 และ 5 ของหนังเรื่องนี้ยอดเยี่ยมสุดๆ ตอนที่ 1 ของหนังเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหญิงสาวและหญิงวัยกลางคนที่มีลูกในวัยทารกต้องดูแล ทั้งสองอยู่ที่สถานีรถไฟและพยายามจะขึ้นรถไฟ (ไม่รู้ว่าหนีภัยสงครามหรือเปล่า) แต่ปัญหาบางอย่างทำให้ทั้งสองโดยสารรถไฟไม่ได้ ทั้งสองต้องรออยู่ที่สถานีต่อไปเรื่อยๆท่ามกลางความหิวโหยอย่างสุดขีด และในที่สุดเมื่อความหิวโหยทรมานหญิงสาวอย่างรุนแรงถึงขีดสุด หญิงวัยกลางคนจึงตัดสินใจให้หญิงสาวคนนั้นดูดนมจากทรวงอกของตัวเองเพื่อประทังชีวิตต่อไป

ส่วนตอนที่ 5 ของหนังเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคลับบาร์แห่งหนึ่งในอดีตยูโกสลาเวีย มีผู้ชายคนหนึ่งที่มีอำนาจสั่งให้ทุกคนในคลับบาร์แห่งนี้ “หยุด” ได้ทุกเมื่อที่เขาสั่ง เมื่อเขาสั่งให้หยุด นักร้องก็ต้องหยุดร้องเพลง และทุกคนในบาร์แห่งนั้นก็ต้องหยุดอยู่นิ่งๆ ขยับเขยื้อนร่างกายไม่ได้เลย

หนังเรื่องนี้เคยมาฉายที่สถาบันเกอเธ่ ซ.สาทร 1 เมื่อไม่กี่ปีก่อน


7.INNOCENCE UNPROTECTED (1968, DUSAN MAKAVEJEV, YUGOSLAVIA) A+

หนังมีความเอะอะมะเทิ่งไม่แพ้หนังของเอมีร์ คุสตูริกา จัดเป็นหนังสารคดี + เรื่องแต่ง + หนังซ้อนหนัง + หนังข่าว และบันทึกภาพความรุ่งโรจน์ของยูโกสลาเวียได้ดีตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง, ระหว่างสงครามโลก และหลังสงครามโลก เราได้เห็นใบหน้าของคนบางคนตั้งแต่สาวหรือหนุ่ม, วัยกลางคน จนถึงวัยชรา เห็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของพวกเขา, เห็นความเปลี่ยนแปลงในวงการภาพยนตร์ เห็นความสุข, สนุก, เศร้าเคล้าน้ำตา หนังเรื่องนี้เหมาะนำมาดูเทียบกับ UNDERGROUND มากๆเลยค่ะ

หนังเรื่องนี้เพิ่งมาฉายที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


8.UNDERGROUND (1995, EMIR KUSTURICA, YUGOSLAVIA) A

ได้ดูหนังเรื่องนี้ไปเพียงรอบเดียวค่ะ ก็เลยทำให้ตามอารมณ์ของหนังไม่ทันเท่าไหร่ แต่จัดเป็นหนังที่เริ่ดมากๆ และคุสตูริกาก็ดูเหมือนจะทำหนังได้อย่างมีเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเองมากๆ


9.LOVE AFFAIR (OR THE CASE OF THE MISSING SWITCHBOARD OPERATOR) (1967, DUSAN MAKAVEJEV, YUGOSLAVIA) A

หนังเรื่องนี้ค่อนข้างช้าและนิ่งมากเมื่อเทียบกับ INNOCENCE UNPROTECTED เพราะหนังเรื่องนี้ต้องการสะท้อนภาพชีวิตประจำวันที่น่าเบื่อหน่ายของตัวละคร จริงๆแล้วพล็อตหนังเรื่องนี้เอามาทำเป็นหนัง THRILLER หรือหนังปริศนาฆาตกรรมได้สบายมาก แต่มาคาเวเจฟกลับไม่ทำเช่นนั้น เพราะเขาเปิดเผยเหตุการณ์ฆาตกรรมตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ก่อนจะเล่าย้อนไปว่าตัวละครมีชีวิตที่น่าเบื่อหน่ายอย่างไรบ้างก่อนจะตาย


10.WHEN FATHER WAS AWAY ON BUSINESS (1985, EMIR KUSTURICA, YUGOSLAVIA) A

ได้ดูหนังเรื่องนี้ทางวิดีโอ แต่จำอะไรแทบไม่ได้แล้ว


11.FUSE (2003, PJER ZALICA, BOSNIA) A-

ชอบตอนจบของหนังเรื่องนี้มากค่ะ


12.OFF SEASON (1997, PEPE DANQUART + MIRJAM QUINTE,หนังเยอรมันแต่เนื้อหาเกี่ยวข้องกับสงครามในอดีตยูโกสลาเวีย) B+

หนังสารคดีเกี่ยวกับเมืองมอสตาร์ เมืองที่ชาวโครแอทกับชาวมุสลิมเคยร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับชาวเซอร์บ แต่พอชาวเซอร์บล่าถอยไปแล้ว ชาวโครแอทกับชาวมุสลิมก็หันมาฆ่าฟันกันเองต่อไป

ฉากหนึ่งที่ประทับใจในหนังเรื่องนี้ก็คือฉากที่เขาถ่ายให้เห็นสะพานแห่งหนึ่งที่ถูกทำลายในช่วงสงคราม โดยนายทหารที่บัญชาการให้ทำลายสะพานนี้เคยมีอาชีพเป็นผู้กำกับภาพยนตร์มาก่อน


นอกจากนี้ ยังมีหนังสั้นจากโครเอเชียอีกหลายเรื่องที่เคยมาฉายที่สมาคมฝรั่งเศส ถ.สาทรใต้ ในช่วงปลายปี 2001 ค่ะ หนังสั้นเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าโครเอเชียมีหนังที่น่าสนใจมากมายเกินกว่าที่คิดจริงๆ

หนังสั้นของเยอรมันที่เกี่ยวกับสงครามในอดีตยูโกสลาเวียก็เคยมาฉายให้ดูบ้างเหมือนกันที่สถาบันเกอเธ่ ที่จำได้ติดตาติดใจไม่มีลืมมีอยู่ 2 เรื่อง เรื่องนึงเป็นเรื่องของรถบัสที่บรรทุกผู้คนมากมายที่พยายามอพยพหนีภัยสงคราม แต่รถบัสคันนี้ก็ถูกสกัดโดยกองกำลังของฝ่ายหนึ่ง และนักรบของกองกำลังนั้นก็เลือกว่าจะฆ่าผู้โดยสารคนไหนดีในรถคันนี้

ส่วนอีกเรื่องนึงรู้สึกว่าสร้างจากเรื่องจริง เป็นเรื่องของหญิงสาวกับหญิงวัยกลางคนที่หลบหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ในป่าเพื่อหนีให้พ้นจากกำลังทหารของฝ่ายตรงข้าม แต่เกิดเหตุอะไรบางอย่างที่ทำให้หญิงวัยกลางคนคนนั้นกลายเป็นตัวถ่วงในระหว่างการหลบหนี หญิงสาวจึงจำเป็นต้องฆ่าหญิงวัยกลางคนคนนั้นทิ้ง เพื่อที่ตัวเองจะได้หนีเอาชีวิตรอดได้ต่อไป และในที่สุดเรื่องราวการหลบหนีของเธอก็กลายมาเป็นหนังเรื่องนี้

No comments: