Friday, December 09, 2005

MAURICE PIALAT

ตอบคุณ SENSITIVEMAN + LOVEJUICE

อยากดูคลิปของนาเดียมากๆเหมือนกันค่ะ ส่วนหนังเรื่อง NADIA นั้น รู้สึกว่าตอนนี้ยังไม่มีผลิตออกขายเป็นดีวีดี เพราะฉะนั้นคุณ LOVEJUICE โชคดีมากๆเลยค่ะที่เคยดูหนังเรื่องนี้

เดาว่าถ้ามีการผลิตหนังเรื่อง NADIA ออกขายเป็นดีวีดี ทางผู้ผลิตน่าจะมี EXTRA FEATURES เป็นคลิปการแข่งขันจริงๆ และมีการสัมภาษณ์นาเดียตัวจริงด้วย
http://www.ighof.com/images/Nadia_Newsweek.jpg



ตอบคุณ THUNSKA

เทศกาลหนังทดลองน่าสนใจสุดๆเลยค่ะ

นอกจากหนังของกลุ่ม THAIINDIE แล้ว หนังที่อยากดูในเทศกาลนี้ก็รวมถึง

1.หนังของ SUE MCNALLY
http://www.susanmcnally.com/movies.htm

2.หนังของ MICHAEL SHAOWANASAI

3.หนังของ CHRISTELL LHEUREUX
(ตอนนี้หนังเรื่อง L’EXPERIENCE PREHISTORIQUE (2005, A+) ของ CHRISTELL LHEUREUX ติดอันดับหนังยาวที่ดิฉันชอบมากเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ รองจาก AFTERNOON TIMES (2005, ทศพล บุญสินสุข))

4.หนังเรื่อง SOMETHING MORE THAN NIGHT (2003) ของ DANIEL EISENBERG
http://www.filmvideoandnewmedia.info/feat_deisen.html

http://www.du-die-stadt.de/Resources/chicago1.jpeg
http://www.filmvideoandnewmedia.info/images/SMTN_295x220.jpg


หนังเรื่อง PERSISTENCE (1997) ของ DANIEL EISENBERG เคยมาฉายที่กรุงเทพในเดือนธ.ค.ปี 1999 เพื่อนดิฉันคลั่งหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงมาก แต่ดิฉันพลาดไม่ได้ไปดูหนังเรื่องนี้ และจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่สามารถหาหนังเรื่องนี้มาดูได้อีกเลย
http://www.danieleisenberg.com/f8pers.htm

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า DANIEL EISENBERG เคยเป็นอาจารย์ของคุณอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุลหรือเปล่า ถ้าจำผิดก็ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย


5.หนังของ STEFAN POPESCU


--มีเพื่อนตั้งข้อสังเกตว่าหนังเรื่อง SMILES OF THE FIFTH NIGHT (2005, สนธยา ทรัพย์เย็น, A+) กับ ANDAMAN (2005, สมพจน์ ชิตเกษรพงศ์, A+) มีอะไรเกี่ยวเนื่องกันโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะในหนังเรื่อง SMILES OF THE FIFTH NIGHT จะมีการแสดงความคิดเห็นของชาวต่างชาติที่มีต่อเหตุการณ์สึนามิ ปรากฏในรูปของตัวอักษร โดยที่เรามองไม่เห็นตัว “ชาวต่างชาติ” ที่เป็นเจ้าของความคิดเห็นนั้น

ส่วนใน ANDAMAN นั้น มีการสัมภาษณ์ชาวต่างชาติ (เดาว่าเกี่ยวกับเรื่องสึนามิ) เราได้เห็น “ภาพ” ของพวกเขา แต่เรากลับไม่ได้รับรู้ความคิดเห็นของพวกเขา พอดูหนังสองเรื่องนี้ด้วยกันแล้วก็เลยรู้สึกเหมือนกับว่า ความคิดเห็นของชาวต่างชาติที่ถูกตัดออกไปจาก ANDAMAN มันมาปรากฏอยู่ในรูปของตัวอักษรใน SMILES OF THE FIFTH NIGHT แทน


ตอบน้อง ZM

พี่ก็เป็นคนรุ่นทีวีขาวดำเหมือนกันค่ะ ทางบ้านจนมาก รู้สึกว่าดูทีวีขาวดำจนถึงประมาณปี 1984 ถึงค่อยเปลี่ยนเป็นทีวีสี


ตอบคุณแฟรงเกนสไตน์

ขอให้คุณแฟรงเกนสไตน์หายวุ่นวายชีวิตและจิตใจในเร็วๆนี้นะคะ และถ้าหากเผอิญเจอ YUKIO IKETANI ตัวจริง ก็ฝากจูบเขาแทนดิฉันด้วยนะคะ


ตอบคุณโอลิเวอร์

ว้าย นิโคล คิดแมนเป็นแฟน KEITH URBAN หรือนี่

อย่างไรก็ดี มีข่าวที่น่ายินดีว่า JONATHAN SCHAECH หย่าขาดจาก CHRISTINA APPLEGATE แล้ว และนั่นก็หมายความว่า มีผู้ชายที่น่าเอามาเป็นสามีเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งราย

JONATHAN SCHAECH (นามสกุลเขาอ่านว่าอะไรน่ะ) เคยเล่นหนังเกย์เรื่อง THE DOOM GENERATION (1995, GREGG ARAKI, A) และเล่นหนังเรื่อง HOW TO MAKE AN AMERICAN QUILT (1995, JOCELYN MOORHOUSE, A+) กับ THAT THING YOU DO! (1996, TOM HANKS) โดยมี CHARLIZE THERON ร่วมเล่นหนังเรื่องนี้ด้วย
http://www.astabgay.com/celebrities/JonathanSchaech.jpg
http://images.amazon.com/images/P/B00007JME8.01._SCLZZZZZZZ_.jpg





ตอบคุณ CHRIS’S GIRLFRIEND

ต้องกราบขออภัยเป็นอย่างยิ่งค่ะสำหรับเรื่องของ MIKIO NARUSE ที่ดิฉันเขียนไป เพราะดิฉันจำสลับกับความเป็นจริง ที่จริงแล้วคุณสนธยาเขียนว่า “หนังของเขาเปล่งพลังสงบบางอย่างออกมาจากก้นบึ้งภายใต้กระแสธารที่ไหลเชี่ยวเบื้องบน” (บุ๊คไวรัส 1 หน้า 194) ซึ่งตรงข้ามกับที่ดิฉันเขียนไปก่อนหน้านี้ (อายตัวเองจังเลย)

อันนี้เป็นสิ่งที่คุณสนธยาเขียนถึง MIKIO NARUSE ในหนังสือ “บุ๊คไวรัส 1” ค่ะ

“นารุเสะ เป็นคนทำหนังญี่ปุ่นที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินไปสำหรับรุ่นเยาวชน การมีประสบการณ์เข้าใจชีวิตเป็นเรื่องจำเป็นก่อนชมหนังของเขา เขาไม่มีลายเซ็นต์งามๆในทางกล้องแบบจดจำได้ทันทีเหมือนผู้กำกับหนังญี่ปุ่นชั้นแนวหน้าหลายคน เช่น เคนจิ มิโซงุจิ หรือ ยาสุจิโร่ โอสุ โครงสร้างการเล่าเรื่องนั้นก็ไม่หวือหวาเท่าอากิระ คุโรซาว่า แม้เขาจะเคยอยู่บริษัทเดียวกับโอสุมาก่อน แต่หนังของนารุเสะมักเกี่ยวพันกับตัวละครหลากหลายกว่า นางเอกของเขาจะไม่นั่งรักษามารยาทสุภาพต่อกัน หรือนั่งก้มหน้ายอมรับชะตาตัวเองโดยไม่มีปากเสียง กระนั้นก็ตาม หนังของเขาเปล่งพลังสงบบางอย่างออกมาจากก้นบึ้งภายใต้กระแสธารที่ไหลเชี่ยวเบื้องบน”

นอกจากนี้ คุณสนธยา ทรัพย์เย็นยังเขียนถึง MAURICE PIALAT ไว้ในหน้า 59 ว่า

“ผลงานของเขานับเป็นผลงานที่ดูจริง เข้มข้นและทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ หากเราย้อนมาดูหนังเหล่านี้ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น เราอาจพบว่า เบื้องหลังงานสร้างที่ดูเหมือนเรียบง่ายแสนธรรมดานั้น ประกอบไปด้วยความซับซ้อนแห่งชีวิตที่เทคนิควิธีการสร้างภาพยนตร์ประเภทสวยงามกลายเป็นแค่เรื่องตลก ผลงานเด่นๆของเขามากมายเคยฉายที่สมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ มาแล้วทั้งสิ้น เช่น L’ENFANCE NUE (1968) หนังเกี่ยวกับเด็กมีปัญหาชื่อ อังตวน (อำนวยการสร้างโดยฟรังซัวส์ ทรุฟโฟต์) ที่อาจทำให้ปัญหาของอังตวน เด็กตัวเอกใน THE 400 BLOWS (1959) กลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไปเลย”

นอกจากนี้ คุณสนธยายังเขียนถึง GEORGES BERNANOS เจ้าของบทประพันธ์ UNDER THE SUN OF SATAN และ MOUCHETTE (1937) ไว้ในหนังสือบุ๊คไวรัส 1 หน้า 58 ว่า

“หนังสือของเขาสะท้อนโลกมืดมิดสับสน ที่ความชั่วร้ายหัวเราะร่าในร่างมนุษย์ การต่อสู้กับซาตานเป็นแนวเรื่องประจำที่เขาใช้บ่อย แล้วท้ายสุดมันมักกำชัยชนะเหนือผู้คนไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ เด็ก (หรือแม้กระทั่งพระ) โดยเฉพาะเด็กที่ถูกทารุณกรรมสารพัดจนหมดสภาพและตายไปในที่สุด”

http://images.amazon.com/images/P/2266112325.08._SCLZZZZZZZ_.jpg

http://images.amazon.com/images/P/1590171519.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

ผลงานการประพันธ์ของ GEORGES BERNANOS รวมถึง

1.DIARY OF A COUNTRY PRIEST (1936) ที่ ROBERT BRESSON เคยเอามาสร้างเป็นหนัง
http://images.amazon.com/images/P/2266122223.08._SCLZZZZZZZ_.jpg

2.GREAT CEMETERIES UNDER THE MOON ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองในสเปน
http://images.amazon.com/images/P/202025378X.08._SCLZZZZZZZ_.jpg

3.DIALOGUE WITH THE CARMELITES
http://images.amazon.com/images/P/2020285428.08._SCLZZZZZZZ_.jpg

DIALOGUE WITH THE CARMELITES เคยสร้างเป็นหนังหลายครั้ง ซึ่งรวมถึงในปี 1960 ที่กำกับโดย PHILIPPE AGOSTINI + RAYMOND LEOPOLD BRUCKBERGER โดยมีสามสาวที่น่าสนใจสุดๆมานำแสดง นั่นก็คือ JEANNE MOREAU, ALIDA VALLI และ MADELEINE RENAUD

ALIDA VALLI เคยแสดง SUSPIRIA, THE SPIDER’S STRATAGEM (1970, BERNARDO BERTOLUCCI) และ THE LONG ABSENCE (1961, HENRI COLPI, A+)
http://www.imdb.com/name/nm0885098/

http://www.uschis-filmcollagen.de/images/VALLI_001.jpg

MADELEINE RENAUD (1900-1994) เคยเล่นหนังเรื่อง THE SKY IS YOURS (1944, JEAN GREMILLON, A), LUMIERE D’ETE (1943, JEAN GREMILLON, A) และ LE PLAISIR (1952, MAX OPHULS, A)
http://www.imdb.com/name/nm0719233/

รูปของ MADELEINE RENAUD ในละครเวทีเรื่อง HAPPY DAYS ที่สร้างจากบทประพันธ์ของ SAMUEL BECKETT
http://yz2dkenn.club.fr/renaud.jpg

SUZANNE FLON (THE FLOWER OF EVIL) เคยแสดงในภาพยนตร์เรื่อง DIALOGUE WITH THE CARMELITES เวอร์ชันปี 1984 ที่กำกับโดย PIERRE CARDINAL

หนังเรื่อง DIALOGUE WITH THE CARMELITES (1984) เวอร์ชันที่กำกับโดย HENRY PROKOP สามารถหาชมได้ในรูปแบบดีวีดีที่สหรัฐ
http://images.amazon.com/images/P/B0000687ED.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

หนังเรื่อง DIALOGUE WITH THE CARMELITES (1999, DON KENT) ก็สามารถหาชมได้ในรูปแบบดีวีดีที่สหรัฐเช่นกัน
http://images.amazon.com/images/P/B000053GTD.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

หนังเรื่องนี้ในเวอร์ชันปี 1999 ดัดแปลงมาจากโอเปร่าของ FRANCIS POULENC ซึ่งดัดแปลงมาจากหนังสือของ GEORGES BERNANOS อีกทีนึง
http://images.amazon.com/images/P/B000002SRN.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

สิ่งที่สำคัญก็คือว่า FRANCIS POULENC เป็นเกย์ที่รักอิสระเสรีเป็นอย่างมาก และเขาก็เป็นคาทอลิกด้วย

DIALOGUE WITH THE CARMELITES มีเนื้อหาเกี่ยวกับ BLANCHE แม่ชีที่มีจิตใจสุดแสนประเสริฐ แต่เธอกับนางชีทั้งคอนแวนต์ก็ตกเป็นเหยื่อของการปฏิวัติฝรั่งเศส เพราะนางชีเหล่านี้เลือกที่จะถูกประหารชีวิตด้วยกิโยติน ดีกว่าที่จะเลือกละทิ้งความเชื่อทางศาสนาของตัวเอง

ฉากที่เด่นสุดๆในหนังเรื่องนี้คือฉากประหารชีวิตแม่ชีทีละคน ทีละคนด้วยกิโยติน

อ่านประวัติของ FRANCIS POULENC (1899-1963) หนึ่งในนักประพันธ์ดนตรีคนแรกๆของโลกที่เปิดเผยว่าตัวเองเป็นเกย์ได้ที่
http://www.glbtq.com/arts/poulenc_f.html
http://images.amazon.com/images/P/2020136953.08._SCLZZZZZZZ_.jpg

สิ่งที่น่าสนใจในประวัติของ FRANCIS POULENC

1.สามีคนที่สองของเขาเป็นโชเฟอร์ที่มีชื่อว่า RAYMOND DESTOUCHES และ POULENC ก็อุทิศผลงานสองชิ้นให้สามีคนนี้ ซึ่งก็คือโอเปร่าแนวเซอร์เรียลเรื่อง LES MAMELLES DE TIRESIAS (1944) และ LA FIGURE HUMAINE (1943) ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่มต่อต้านนาซีในสงครามโลกครั้งที่สอง

2. FRANCIS POULENC เคยแต่งผลงาน TROIS CHANSONS DE GARCIA LORCA (1944) ซึ่งเกี่ยวข้องกับ FEDERICO GARCIA LORCA (1898-1936) นักประพันธ์ชื่อดังของสเปนที่เป็นเกย์
http://ec1.images-amazon.com/images/P/0811216225.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

ผลงานการประพันธ์ที่สำคัญของ FEDERICO GARCIA LOCA คือเรื่อง THE HOUSE OF BERNADA ALBA ซึ่งเคยได้รับการดัดแปลงสร้างเป็นหนังมาแล้วในปี 1987 ด้วยฝีมือการกำกับของ MARIO CAMUS
http://images.amazon.com/images/P/9505811055.01._SCLZZZZZZZ_.jpg
http://images.amazon.com/images/P/B0006GAOJ0.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

หนังเรื่อง YERMA (1999, PILAR TAVORA, B-) ที่สร้างจากบทประพันธ์ของ FEDERICO GARCIA LORCA เคยเข้ามาฉายในกรุงเทพ แต่หนังไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่นัก โดยดารานำในหนังเรื่องนี้คือ IRENE PAPAS (WITNESS OUT OF HELL, A TALKING PICTURE, ERENDIRA, CHRONICLE OF A DEATH FORETOLD, CHRIST STOPPED AT EBOLI)
http://images.amazon.com/images/P/B00009VTXE.01._SCLZZZZZZZ_.jpg


อ่านประวัติของ FEDERICO GARCIA LORCA ได้ที่
http://www.kirjasto.sci.fi/fglorca.htm

FEDERICO GARCIA LORCA ถูกฝ่ายขวาฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมทารุณในสเปน โดยฝ่ายขวาที่ฆ่าเขาบอกว่าเขายิงกระสุนสองนัดสวนเข้าไปในรูก้นของ FEDERICO GARCIA LORCA เพราะเขาเกลียดที่นักประพันธ์คนนี้เป็นเกย์

One of his assassins later boasted, that he shot "two bullets into his arse for being a queer".


3.FRANCIS POULENC แต่งบทการแสดงโซปราโน่ LA VOIX HUMAINE หรือ THE HUMAN VOICE (1958) ซึ่งเป็นผลงานแนวโศกนาฏกรรม โดยดัดแปลงมาจากบทละครเวทีแบบองก์เดียวของ JEAN COCTEAU ซึ่งเป็นศิลปินเกย์ชื่อดังอีกคนหนึ่ง โดยเขากับ COCTEAU เป็นเพื่อนกันนานถึง 50 ปี
http://www.eroica.com/phoenix/jdt131.html

บทประพันธ์ THE HUMAN VOICE ของ JEAN COCTEAU เคยได้รับการดัดแปลงสร้างเป็นหนังเรื่อง L’AMORE (1948, ROBERTO ROSSELLINI, A-) ซึ่งตลอดทั้งเรื่องจะมีแต่ผู้หญิงคนนึง (Anna Magnani) พูดคุยโทรศัพท์กับคนรักที่กำลังจะจากเธอไป เธอเริ่มแสดงความทุกข์ทรมานในจิตใจออกมามากขึ้นเรื่อยๆ เธอทั้งกรีดร้อง, ร่ำไห้, กระซิบ, สะอึกสะอื้น เธอพยายามขอร้องอย่างสุดชีวิตไม่ให้คนรักจากเธอไป แต่ในที่สุดเธอก็ทำไม่สำเร็จ เธอก็เลยใช้สายโทรศัพท์รัดคอตัวเอง
http://images.amazon.com/images/P/B000025EOP.01._SCLZZZZZZZ_.jpg
http://images.amazon.com/images/P/B0000630R5.08._SCLZZZZZZZ_.jpg


ถ้าเข้าใจไม่ผิด อันนี้เป็นรูปจากโอเปร่าเรื่อง LES MAMELLES DE TIRESIAS ของ FRANCIS POULENC ที่อุทิศให้กับสามีคนที่สองของเขาที่เป็นโชเฟอร์
http://www.operatrionfo.nl/images/Poulenc1_gr.jpg
http://www.operatrionfo.nl/images/Poulenc2_gr.jpg

1 comment:

sonia said...

I can't read your blog. Only squares instad of letters. Anyway, I read you profile and I think you might like my review of this film
sonia-belle: Great Film - "Baise-moi" (2000)