Sunday, April 16, 2006

LUNA PARK

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ฝ่ายประชาสัมพันธ์โรงแรมโอเรียนเต็ล เผยรายชื่อนวนิยายส่งเข้าประกวดชิงรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปี 2549 ทั้งหมด 64 เรื่อง ดังนี้ 1."29 กุมภาฯ" เกรียงไกร วชิรธรรมพร นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ 2."เกียวบาวนาจอก" ภาณุมาศ ภูมิถาวร สนพ.มิ่งมิตร 3."เขียนฝันด้วยชีวิต" ประชาคม ลุนาชัย สนพ.มติชน 4."เงาจันทร์บนแผ่นน้ำ" วุฐิศานติ์ จันทร์วิบูล อีกหนึ่งสำนักพิมพ์ 5."เจ้าหนูขลุ่ยผิว" สุริยัน สุดศรีวงศ์ นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ 6."เชื่อมฟ้าฝากดิน สำนึกถิ่นดงขุมดำ" บุญยงค์ เกศเทศ สนพ.หลักพิมพ์ 7."เด็กกำพร้าแห่งสรวงสวรรค์" ภาณุ ตรัยเวช นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ 8."เมื่อวานนี้" ศรี เกศมณี นานมีบุ๊คพับลิเคชั่นส์ 9."เริงคารม" เจนจรรโลง (ล้วน เจนใจ) 10."เล่นเงา" จิรภัทร อังศุมาลี สนพ.มติชน 11."เวรกรรม" ฮ.นิกฮูกี้ สนพ.ปรัชญ์ 12."แกะรอยฆาตกรรม" ปรัชญ์ รุจิวนารมย์ นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ 13."แจ๊ค ณ ขอบฟ้า" เชษฐา สุวรรณเสา นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ 14."โรงครู" มาโนช นิสรา สนพ.มติชน 15."โลกสีเทา" อุเทน พรมแดง นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ 16."ในกรงขัง" อุเทน พรมแดง สนพ.วสี ครีเอชั่น 17."ไมรอน" พัณณิดา ภูมิวัฒน์ สนพ.สถาพรบุ๊คส์ 18."กรณีฆาตกรรมโต๊ะอิหม่ามสะตอปา การ์เด" ศิริวร แก้วกาญจน์ ผจญภัยสำนักพิมพ์ 19."กระจกเงา เงากระจก" อุทิศ เหมะมูล สนพ.หวีกล้วย 20."กระต่ายกับเต่า ภาค 2 เราไปวิ่งแข่งกันแล้ว" ฮ.นิกฮูกี้ สนพ.ดอกหญ้ากรุ๊ป 21."กระบือบาล" ดำรงค์ อารีกุล สนพ.มติชน 22."กลางทะเลลึก" ประชาคม ลุนาชัย สนพ.มติชน 23."ก่อนดวงอาทิตย์ใกล้ดับ" ประมวล ดาระดาษ สนพ.โลก 24."กัมปง ตูวา" หมู่บ้านชรา อนุสรณ์ มาราสา สนพ.สยามอินเตอร์บุ๊คส์ 25."ขุนโจรแม่เล่ย์" อ.โรสินี (เอนก ทองพัดภู่) สนพ.สาลศานต 26."ความรักของพ่อเฒ่า" อัณณพ ชูบำรุง นูพริ้นท์ 27."ความสุขของกะทิ" งามพรรณ เวชชาชีวะ แพรวสำนักพิมพ์ 28."คำใส" วีระศักดิ์ สุยะลา นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ 29."ชันสูตรฯ ลับ ฉบับหมอเจ็บ" น.พ.ปิยพงษ์ สาครเย็น สนพ.มติชน 30."ชีวิตเหมือนฝันอันอาดูร" เงาจันทร์ สนพ.ดอกหญ้ากรุ๊ป 31."ต้นไม้ปฏิวัติ" อุดม วิเศษสาธร สนพ.หลักพิมพ์ 32."ต้นกล้า" แพทย์หญิงชัญวลี ศรีสุโข ณ เพชร สำนักพิมพ์ 33."ทรามวัยกับไอ้ตู่อยากขอลองสู้เพื่อสร้างโลกสีสวย" มายา สวัสดี เม็ดทรายพริ้นติ้ง 34."ทริปส์" วิสิทธิ์ โพธิวัฒน์ คนรู้ใจสำนักพิมพ์ 35."ทองดี" ล่ำซำ วิฬาร นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ 36."ทะเล เกลียวคลื่น และดวงดาว" วัชรินทร์ อำพัน สนพ.เรือนปัญญา 37."ทางเลี้ยวเข้าสุสาน" นิรันศักดิ์ บุญจันทร์ สนพ.สยามอินเตอร์บุ๊คส์ 38."นกเพลง" ทินกร หุตางกูร สนพ.เม่นวรรณกรรม 39."นอน" ศักดิ์ชัย ลัคนาวิเชียร แพรวสำนักพิมพ์ 40. "นารีผล เล่า 1-2 "สุทัสสา อ่อนค้อม สนพ.บีเฮลท์ตี้41."บ้านเรา" สว่าง คงยก นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ 42."ปีกนางฟ้า" สุวิชานนท์ รัตนภิมล สนพ.รูปจันทร์ 43."ปีศาจหัวโต" องอาจ ชัยชาญชีพ สำนักเป็ดเต่าควาย 44."ปุชิตา" บินหลา สันกาลาคีรี สนพ.วงกลม 45."ฝนดับไฟ" ภาณุมาศ ภูมิถาวร สนพ.มิ่งมิตร 46. "พับแพว เกมมหัศจรรย์" สาคร พูลสุข นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ 47."มักกะลีผล เล่ม 1-2 "สุทัสสา อ่อนค้อม สนพ.บีเฮลท์ตี้ 48."ยายมาลี ส้มซ่า ฮ่า...ฮ่า" ศรี เกศมณี นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่น 49."ยิ้มก่อนอ่าน ทรมานก่อนจะจบ" พรชัย เแสนยะมูล สนพ.ไม้ยมก 50."ระบำเมถุน" อุทิศ เหมะมูล สนพ.สเกล 51."ร่างพระร่วง" เทพศิริ สุขโสภา สนพ.มติชน 52."ลูกสาวฤษี" ปริทรรศ หุตางกูร แพรวสำนักพิมพ์ 53. "วัฏจักรชีวิต" สุทัสสา อ่อนค้อม สนพ.บีเฮลท์ตี้ 54. "ว่ายเวิ้งฟ้า" เฉกชนม์ สนพ.เพื่อนหรรษา 55."สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เล่ม 1-2" สุทัสสา อ่อนค้อม สนพ.บีเฮลท์ตี้ 56."สำนักมานุษ" วีระศักดิ์ ขันแก้ว สนพ.คนเขียน 57."สุริยคราส" อุเทน พรมแดง สนพ.ดอกหญ้ากรุ๊ป 58."หยาดน้ำฟ้า" ณรงค์ฤทธิ์ ศักดาณรงค์ สนพ.หลักพิมพ์ 59."หลิวลู่ลม" พรรณวดี (พงษ์ลดา อิทธิเมฆินทร์) สนพ.ออปจูน 60."หวนคืนกลับสู่ความหวังที่เลือนหาย" ปองวุฒิ ริระชาคร สนพ.คนรักหนังสือ 61."หัวใจทองในใจเธอ" เก็ตตะหวา นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่น 62."หากเธอมีคืนหนาว ขอให้ฉันเป็นดาวอุ่น" พรชัย แสนยะมูล สนพ.ไม้ยมก 63."หุบพงไพร" ประมวล ดาระดาษ แพรวสำนักพิมพ์ 64."อารีดม" พรชัย แสนยะมูล สนพ.ไม้ยมกทั้งนี้ คณะกรรมการจะตัดสินรอบคัดเลือประมาณปลายเดือนมิ.ย.นี้

ตอบน้อง merveillesxx

--ทีวีเสียเป็นสิ่งที่ดิฉันหวาดกลัวมากค่ะ เพราะการหอบทีวีไปขึ้นแท็กซึ่เพื่อไปร้านซ่อมนั้นเป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก ไม่เหมือนเครื่องเล่นวิดีโอหรือเครื่องเล่นเทปที่สามารถหอบหิ้วไปขึ้นรถแท็กซี่ได้อย่างสบาย

--พูดถึง SYSTEM F หรือ FERRY CORSTEN ก็ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า เห็นนิตยสาร MIXMAG ที่วางขายในร้าน B2S มีแถมซีดีรวมเพลงที่ FERRY CORSTEN เลือกมาด้วย ความยาวน่าจะประมาณ 70 นาที จริงๆแล้วก็รู้สึกอยากซื้อนิตยสารนี้อย่างมากๆ เพราะรู้สึกว่านี่คงจะเป็นหนึ่งในนิตยสารเพลงแดนซ์ที่ดีที่สุด แต่ซื้อมาแล้วก็คงต้องเกิดกิเลสทำให้อยากซื้อซีดีเพลงต่างๆอีกมากมายตามมา
http://en.wikipedia.org/wiki/Ferry_Corsten

--เห็นชื่อเพลง LUNA PARK ของ PET SHOP BOYS แล้วทำให้นึกถึงหนึ่งในหนังที่อยากดูที่สุด นั่นก็คือหนังรัสเซียเรื่อง LUNA PARK (1991, PAVEL LONGUINE) เพราะว่าหนังเรื่องนี้ออกแบบปกวิดีโอได้น้ำลายไหลมากๆ
http://www.amazon.com/gp/product/6303139639/qid=1145186975/sr=8-2/ref=pd_bbs_2/002-0172376-3992012?%5Fencoding=UTF8&v=glance&n=404272
http://ec1.images-amazon.com/images/P/6303139639.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

LUNA PARK มีเนื้อหาเกี่ยวกับอังเดร (ANDREI GOUTINE) ผู้นำของแก็ง THE CLEANERS ซึ่งเป็นแก๊งชายหนุ่มที่อาละวาดทำลายธุรกิจของชาวยิวหลังสิ้นสุดยุคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียต โดยสมาชิกแก๊งนี้มักป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ LUNA PARK และมักใช้เวลาไปกับการเล่นกล้าม

อังเดรเชื่อว่าเขาเป็นชาวรัสเซียที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ เขาเชื่อว่าพ่อของเขาเป็นวีรบุรุษสงครามของโซเวียตที่เคยไปรบในแอฟกานิสถาน แต่เขาได้ทราบความจริงในเวลาต่อมาว่าที่จริงแล้วพ่อของเขาเป็นนักดนตรีชาวยิว และมีคุณสมบัติหลายๆอย่างที่ตรงกับสิ่งที่แก๊งของอังเดรเกลียดชังเป็นอย่างยิ่ง อังเดรตัดสินใจสืบหาพ่อของเขาขณะที่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง อย่างไรก็ดี เมื่ออังเดรเริ่มหันมาสนใจในสไตล์การใช้ชีวิตของพ่อของเขาในเวลาต่อมา อังเดรก็ตกอยู่ในสถานะที่เป็นปฏิปักษ์กับแก๊งของเขาเอง

--อ่านเรื่องย่อของ LUNA PARK แล้วทำให้นึกถึงข่าวที่ได้ยินเป็นประจำจากรัสเซีย นั่นก็คือข่าวนีโอนาซีฆ่าชาวต่างชาติ โดยข่าวที่สะเทือนขวัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือข่าวเด็กหญิงชาวทาจิกิสถานวัย 9 ขวบถูกฆ่าตายเพียงเพราะเธอเป็นชาวต่างชาติ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ศาลในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กก็ได้ตัดสินให้วัยรุ่นคนหนึ่งพ้นผิดในข้อหาฆาตกรรมเด็กหญิงคนนี้ แต่ตัดสินให้เขาได้รับโทษจำคุก 5 ปีครึ่งในข้อหาทำตัวเป็นอันธพาลแทน

เมื่อต้นปีนี้ก็มีวัยรุ่นหนุ่มคนหนึ่งบุกเข้าไปในโบสถ์ยิวในกรุงมอสโคว์ด้วย โดยวัยรุ่นคนนี้ร้องตะโกนว่า HEIL HITLER และไล่แทงคนหลายคนในโบสถ์

เมื่อปลายปีที่แล้ว กลุ่มนีโอ-ฟาสซิสต์ของรัสเซียก็เดินขบวนในมอสโคว์ โดยมีชายหนุ่มหลายพันคนทำท่าทางเชิดชูนาซีในระหว่างการเดินขบวนครั้งนี้


--นำบทความเกี่ยวกับหนังเรื่อง BE WITH ME ไปโพสท์ไว้ที่ T-BOARD ค่ะ เข้าไปอ่านได้ที่
http://xq28.net/s/viewtopic.php?t=10837

--อิจฉาพี่ KIT จังเลย ได้อยู่ในที่อากาศเย็นๆท่ามกลางหนุ่มหล่อหุ่นดี ถ้าหากพูดถึงเนเธอร์แลนด์แล้ว จะนึกถึงหนังเกย์สองเรื่องที่อยากดูมากค่ะ ซึ่งก็คือเรื่อง

1.FOR A LOST SOLDIER (1992, ROELAND KERBOSCH)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B0000687FH.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

2.SIMON (2004, EDDY TERSTALL)
http://www.simondefilm.nl/
http://www.imdb.com/title/tt0393775/

ถ้าเผอิญพี่ KIT ได้มีโอกาสได้ดูหนังสองเรื่องนี้ ก็อย่าลืมนำมาเล่าให้เราฟังด้วยนะคะ


ตอบน้องสะใภ้ PETER SARSGAARD

--ตายแล้ว คิดจะเป็นนางพญาเทครัวหรือคะ อยากให้ PETER SARSGAARD กับ JAKE GYLLENHAAL ได้กันเองเหมือนกัน

--เออใช่ ลืม THE UNTOUCHABLES (B+) ไปเลย ได้ดูหนังเรื่องนี้ตอนเด็กๆ ตอนนั้น KEVIN COSTNER กับ ANDY GARCIA ยังใสปิ๊งมากๆ

--ดีใจมากค่ะที่คุณ OLIVER ก็ชอบ CASUALTIES OF WAR เหมือนกัน รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้พูดถึงสิ่งที่แคบกว่า PLATOON (B+) และ BORN ON THE FOURTH OF JULY (A+/A) แต่กลับประทับใจกับ CASUALTIES OF WAR มากกว่า และถ้าหากนำไปเทียบกับหนังอย่าง THE DEER HUNTER (A+) แล้ว ก็จะรู้สึกว่า THE DEER HUNTER ดีกว่า แต่ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจและฝังใจกับ CASUALTIES OF WAR มากที่สุดอยู่ดี

ตอบคุณเจ้าชายน้อย

บทความใน culture vulture ที่ทำลิงค์ไว้นั้นแค่พูดถึงหนังเรื่อง O.K. ค่ะ ไม่ได้พูดถึง SHANE กับ A HISTORY OF VIOLENCE และก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าบทความเรื่อง POISON มาจากเว็บไซท์อะไร
http://www.culturevulture.net/Movies13/OK.htm

ส่วนสาเหตุที่ดิฉันหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดถึงในกระทู้ของคุณเจ้าชายน้อยนั้น เป็นเพราะว่าเคยอ่านบทความเกี่ยวกับ A HISTORY OF VIOLENCE แล้วนักวิจารณ์บอกว่ามีบางคนนำ SHANE มาเปรียบเทียบกับ A HISTORY OF VIOLENCE ค่ะ แต่ตัวดิฉันเองก็ไม่เคยเห็นบทความยาวๆที่พูดถึงประเด็นนี้เหมือนกัน

อย่างไรก็ดี ลอง search ดูใน internet ก็พบว่ามีหลายบทความเหมือนกันที่เอ่ยถึงหนังเรื่อง SHANE ในการวิจารณ์ A HISTORY OF VIOLENCE แต่ไม่ได้มีการเปรียบเทียบกันยาวๆ

ตัวอย่างบทความทำนองนี้มีให้อ่านใน

1.POLITICAL AFFAIRS
http://www.politicalaffairs.net/article/articleview/1953/1/123/

2.TAKE ONE
http://www.findarticles.com/p/articles/mi_m0JSF/is_51_14/ai_n15653930/print

3.TELEGRAPH
http://www.telegraph.co.uk/arts/main.jhtml?view=DETAILS&grid=P8&xml=/arts/2006/03/18/bfdvds18.xml
A History of Violence is rich and strange, a psychoanalytically charged variation on a whole body of films including Shane, Unforgiven, Out of the Past, The Killers, Affliction, Total Recall and The Incredibles. The plot that unfolds often looks and feels like a hyperrealistic dream, though is never revealed as such. Tom's atavistic act of violence has disturbing, monstrous consequences - as Hollywood violence mostly doesn't - including the infusion of a jolt of animalistic passion into his marital sex life, and the hideous disfigurement of his enemies' faces.

4.REVIEWJOURNAL.COM
http://www.reviewjournal.com/lvrj_home/2005/Sep-30-Fri-2005/weekly/3566859.html

Working from a graphic novel by John Wagner and Vince Locke, screenwriter Josh Olson creates a modern-day parallel to all those classic Westerns (from "The Gunfighter" to "Shane" to "The Shootist" to "Unforgiven") in which world-weary gunslingers naively think they can hang up their six-shooters -- at least until, inevitably, their violent pasts catch up with them. (As William Faulkner once wrote, "The past is not dead. In fact. it's not even past.")

5.SMART-POPCORN.COM
http://www.smart-popcorn.com/reviews/1005/
while American cinema revels in the dissection of themes of violence and how violence effects our society. Movies like Shane and Straw Dogs explore violence as a rite of passage that must necessarily precede manhood. Stone and Tarantino have dismantled violence through postmodernism, building on and then burlesquing the mystique of violence that has been erected through a century of American cinema.

6.THE OBSERVER
http://observer.guardian.co.uk/screen/story/0,,1582663,00.html
First, a pair of ruthless criminals take over Tom's diner, but when the lives of his waitress and short-order cook are threatened, he suddenly turns on the intruders, killing both and getting wounded himself. It's an exhilarating moment, as sudden and exciting as Alan Ladd first pulling his gun in Shane, former CIA man Gene Hackman revealing his lethal skills in Arthur Penn's Target, and one-armed former soldier Spencer Tracy turning on his tormentors in Bad Day at Black Rock.

รู้สึกว่าเนื้อหาข้างบนนี้จะพูดถึงหนังหลายเรื่องที่ดิฉันไม่เคยดูมาก่อน อย่างเช่นเรื่อง

1.OUT OF THE PAST (1947, JACQUES TOURNEUR) มีขายแล้วในรูปแบบดีวีดี
http://www.amazon.com/gp/product/B000244EYW/qid=1145184590/sr=1-1/ref=sr_1_1/002-0172376-3992012?s=dvd&v=glance&n=130
http://images.amazon.com/images/P/B000244EYW.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

หนังฟิล์มนัวร์เรื่องนี้นำแสดงโดย Robert Mitchum ในบทของนักสืบเอกชนที่ถูกล่อลวงโดยหญิงสาวสวยใจคด (JANE GREER) ที่เป็นคนรักของมาเฟียใหญ่ (KIRK DOUGLAS) โดยในตอนแรกนั้นผู้สร้างตั้งใจจะให้ HUMPHREY BOGART มารับบทพระเอกหนังเรื่องนี้


2.THE GUNFIGHTER (1950, HENRY KING)
http://www.amazon.com/gp/product/6301801733/qid=1145184723/sr=1-3/ref=sr_1_3/002-0172376-3992012?s=dvd&v=glance&n=130
http://images.amazon.com/images/P/6301801733.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

มือปืนผู้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ (GREGORY PECK) พยายามจะลงหลักปักฐานในชีวิต แต่ชื่อเสียงของเขาก็ยังคงตามไปสร้างความยากลำบากให้กับเขาในทุกๆที่ที่เขาเดินทางไป นักวิจารณ์บอกว่าหนังคลาสสิคเรื่องนี้คือหนึ่งในการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเกรกอรี่ เปค และหนังเรื่องนี้แทบไม่มีฉากแอคชัน เพราะนี่เป็นหนังแนว character study


3.THE SHOOTIST (1976, DON SIEGEL) มีขายแล้วในรูปแบบดีวีดี
http://www.amazon.com/gp/product/B00005JSGL/qid=1145185152/sr=8-1/ref=pd_bbs_1/002-0172376-3992012?%5Fencoding=UTF8&v=glance&n=130
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00005JSGL.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

นี่คือหนังเรื่องสุดท้ายของ JOHN WAYNE และเป็นหนังที่สร้างขึ้นเพื่อคารวะยุคสมัยของหนังคาวบอยในอดีต โดยในเรื่องนี้เวย์นรับบทเป็นมือปืนชื่อเสียงโด่งดังที่กำลังจะตายจากมะเร็ง เขาพยายามแสวงหาสถานที่ที่จะได้ตายอย่างสงบ แต่เขากลับตกเป็นเหยื่อของชื่อเสียงของตัวเองในที่สุด

LAUREN BACALL และ JAMES STEWART ร่วมแสดงในเรื่องนี้


4.TARGET (1985, ARTHUR PENN) มีขายแล้วในรูปแบบดีวีดี
http://www.amazon.com/gp/product/B0008KLVAU/qid=1145185547/sr=1-2/ref=sr_1_2/002-0172376-3992012?s=dvd&v=glance&n=130
http://images.amazon.com/images/P/B0008KLVAU.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

หนังแนวตื่นเต้นลุ้นระทึกเรื่องนี้เดาเนื้อเรื่องได้ง่าย แต่ดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็วและสนุกสนาน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับพ่อ (GENE HACKMAN) และลูกชาย (MATT DILLON) ที่เลิกทะเลาะเบาะแว้งกันเมื่อทั้งสองต่างก็ตกเป็นเป้าหมายขององค์การสายลับข้ามชาติ


5.BAD DAY AT BLACK ROCK (1955, JOHN STURGES) มีขายแล้วในรูปแบบดีวีดี
http://www.amazon.com/gp/product/B0007TKNH4/qid=1145185715/sr=1-1/ref=sr_1_1/002-0172376-3992012?s=dvd&v=glance&n=130
http://images.amazon.com/images/P/B0007TKNH4.01._SCLZZZZZZZ_.jpg
SPENCER TRACY แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมมากในหนังแอคชันดราม่าที่น่าตื่นเต้นเรื่องนี้ โดยเขารับบทเป็นชายแขนเดียวที่สร้างปัญหาเมื่อเขาเดินทางมาถึงเมืองหนึ่งในฝั่งตะวันตกของสหรัฐ ซึ่งเป็นเมืองที่ประชากรหลายคนซุกซ่อนความลับและความผิดของตัวเองเอาไว้ ส่วนดาราที่ร่วมแสดงในเรื่องนี้รวมถึง Robert Ryan ในบทของผู้ร้ายตัวเอ้ และ Lee Marvin กับ Ernest Borgnine ในบทของลูกสมุนที่ซาดิสท์และโหดร้าย

--รู้สึกว่านักวิจารณ์แต่ละคนจะนำ A HISTORY OF VIOLENCE (A+) ไปโยงกับหนังคลาสสิคมากมายที่ดิฉันยังไม่เคยได้ดูเลย ส่วนตัวดิฉันเองนั้น ช่วงต้นๆของหนังเรื่องนี้ทำให้นึกถึงหนังห่วยเรื่อง THE LONG KISS GOODNIGHT (1996, RENNY HARLIN, C+) ค่ะ แหะแหะแหะ แต่เดาว่า THE LONG KISS GOODNIGHT ก็อาจจะมีต้นแบบมาจากหนังคลาสสิคเช่นกัน แต่ทำออกมาได้น่าผิดหวังมาก (ยกเว้น CRAIG BIERKO ในบทผู้ร้ายที่หล่อมากๆ)
http://www.thewritesite.co.uk/pdf/craig_bierko1.jpg

ตอบคุณเจ้าชายน้อย

--เข้าไปดู TEDDY SCARES ตามที่บอกมาแล้ว เป็นอะไรที่น่ารักน่าชังมาก

--ยินดีด้วยค่ะกับการได้ลง OPEN ONLINE

--หนังที่ควรดูควบกับ THE TENANT (ROMAN POLANSKI, A) ก็คือ THE IDOL (2002, SAMANTHA LANG, A) ที่คงได้รับอิทธิพลโดยตรงมาจาก THE TENANT และใช้ GERARD BRACH มาเขียนบทเหมือนกัน

--พูดถึง JEAN SEBERG กับ ROMAN POLANSKI ก็ต้องนึกถึงหนังเรื่อง HARD CANDY (2005, DAVID SLADE) ด้วยเหมือนกัน เพราะในหนังเรื่องนี้มีฉากที่นางเอกอ่านอัตชีวประวัติของ JEAN SEBERG และมีฉากที่นางเอกคุยกับผู้ร้าย โดยผู้ร้ายซึ่งเป็นพวกที่ชอบมีเซ็กส์กับเด็กบอกนางเอกว่า นางเอกอย่าเอาเรื่องของเขาไปบอกตำรวจ เพราะมันจะส่งผลร้ายต่อหน้าที่การงานของเขา แต่นางเอกตอบกลับไปว่า “โรมัน โปลันสกีเพิ่งได้ออสการ์ไปไม่ใช่เหรอ”

--ได้ดู BREATHLESS (1983, JIM MCBRIDE, B-) เวอร์ชันอเมริกันด้วยเหมือนกัน จำได้อย่างเดียวว่า RICHARD GERE หล่อมาก

No comments: