Monday, September 04, 2006

THE LIBERTINE (A+)

--แหะ แหะ ต้องขอโทษด้วยค่ะ เมื่อวานรีบเขียนเมล์ตอบเพื่อนขณะเบลอๆ ก็เลยเผลอตั้งชื่อภาษาอังกฤษให้หนังเรื่อง “ศีล 4” ว่า THE FOURTH COMMANDMENT แต่พอตอนหลังมานึกได้ว่ามันไม่ควรจะตั้งเป็นชื่อนี้ เพราะ “ศีล 4” ไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับศีลข้อที่ 4 แต่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการที่ศีล 5 ข้อเหลือเพียงศีล 4 ข้อ เพราะข้อที่ 5 คนไม่คิดจะปฏิบัติตาม

--ดู SAY HELLO TO PEACE AND TRANQUILITY แล้วนึกถึง THE SEVENTH CONTINENT (MICHAEL HANEKE, A+)


ข้อความข้างล่างนี้ก็อปปี้มาจากเว็บบอร์ด SCREENOUT
http://xq28.net/s/viewtopic.php?t=3437&start=3625

--หนังที่ได้ดูในช่วงนี้

1.THE LIBERTINE (2004, LAURENCE DUNMORE, A+)
http://www.imdb.com/title/tt0375920/


2.BRICK (2005, RIAN JOHNSON, A+)
ชอบดาราชายในหนังเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะ NOAH FLEISS (1984) ที่รับบทเป็น TUGGER โดยก่อนหน้านี้เขาเคยแสดงภาพยนตร์เรื่อง STORYTELLING (2001, TODD SOLONDZ, A+) และ THINGS YOU CAN TELL JUST BY LOOKING AT HER (RODRIGO GARCIA, A+)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B000FVQM2Y.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V50666520_.jpg
http://img149.imageshack.us/img149/9825/noahfleiss112wq.jpg


3.SEASONS CHANGE (2006, นิธิวัฒน์ ธราธร, A)
ชอบสไตล์ของหนังเรื่องนี้มากๆ รู้สึกว่าหนังนำเสนอสิ่งต่างๆได้ด้วยวิธีการที่ถูกใจดิฉันมากๆ แต่สิ่งที่ทำให้ดิฉันไม่รู้สึกมีความสุขอย่างสุดๆกับหนังเรื่องนี้ เป็นเพราะว่าชีวิตของตัวละครในเรื่องมีบางจุดที่ตรงข้ามหรือห่างไกลจากชีวิตของดิฉันอย่างมากๆเท่านั้นเอง ซึ่งนั่นไม่ใช่ความผิดของหนังแต่อย่างใด

การดูหนังเรื่องนี้ทำให้ดิฉันนึกถึงประสบการณ์เลวร้ายสองอย่างในอดีตของตัวเอง บางสิ่งบางอย่างที่พระเอกของหนังเรื่องนี้ทำกับเพื่อนสนิท ทำให้ดิฉันนึกถึงสิ่งที่เพื่อนสนิทเคยทำกับดิฉันสมัยมัธยมปลาย แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือว่าในขณะที่เพื่อนสนิทของพระเอกให้อภัยพระเอกได้อย่างง่ายดาย และดูเหมือนจะไม่ “เจ็บปวด” กับการกระทำของพระเอกมากนัก แต่ดิฉันกลับไม่สามารถลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองสมัยม.4 เมื่อ 18 ปีก่อนได้เลย จุดนี้ก็เลยทำให้รู้สึกว่าตัวละคร “เพื่อนพระเอก” ในหนังเรื่องนี้ช่างตรงข้ามกับดิฉันมากๆ (แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับดิฉันมันก็ไม่เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพื่อนพระเอกซะทีเดียวหรอกนะ เพียงแต่ว่ามันมีบางจุดที่ทำให้นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองเท่านั้นเอง)

อีกจุดที่รู้สึกว่าตัวละครในหนังเรื่องนี้ตรงข้ามกับชีวิตจริงของดิฉันมากๆ เป็นเพราะว่าดิฉันก็มีเพื่อนสนิทคนนึงที่ต้องการจะเลือกเรียนในสาขาที่พ่อแม่ไม่ต้องการให้เลือกเรียน แต่ปัญหาของเขาไม่ได้ลงเอยแบบในหนังเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่พ่อแม่ทำกับเขาได้ส่งผลร้ายต่อชีวิตของเขาไปตลอดทั้งชีวิตโดยไม่มีทางแก้ไขอะไรได้อีก การได้ดู SEASONS CHANGE ก็เลยทำให้นึกถึงจุดนี้ขึ้นมา และก็รู้สึกว่าตัวละครในหนังเรื่องนี้มีชีวิตที่ห่างไกลจากดิฉันและเพื่อนๆดิฉันมากพอสมควร

จุดนี้ก็เลยทำให้นึกถึงหนังสั้นเรื่อง “สงกรานต์” (A) ที่เพิ่งได้ดูมา เพราะรู้สึกชอบ “วิธีการ” หรือ “สไตล์” ของทั้ง “สงกรานต์” และ SEASONS CHANGE อย่างสุดๆ เพียงแต่ตัวดิฉันอาจจะไม่รู้สึกอินกับหนังสองเรื่องนี้อย่างสุดๆ เพราะว่าชีวิตส่วนตัวของดิฉันห่างไกลจากชีวิตของตัวละครในหนังเท่านั้นเอง เพราะเมื่อใดก็ตามที่ดิฉันนึกถึงเทศกาลสงกรานต์ ดิฉันจะนึกถึงการที่ตัวเองไปไหนมาไหนแทบไม่ได้เพราะจะถูกคนชั่วช้าสารเลวบางคนสาดน้ำใส่ทั้งๆที่บอกว่าห้ามสาด บางครั้งก็รู้สึกอยากทำร้ายคนกลุ่มนี้มากๆ และตอนหลังพอได้คุยกับเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าอยากทำร้ายคนที่สาดน้ำใส่ทั้งๆที่ห้ามสาดเช่นกัน

ดิฉันรู้สึกว่าภาพยนตร์เรื่อง “สงกรานต์” นำเสนอความเหงาของคนชราในชนบทได้อย่างซาบซึ้งกินใจมากๆ และอาจจะเหมาะฉายควบกับ “วันที่ยาวนาน” (2005, อุรุพงศ์ รักษาสัตย์, A++++++++++) เพียงแต่ว่าเมื่อดิฉันนึกถึงคำว่า “เทศกาลสงกรานต์” ดิฉันจะไม่ได้นึกถึงความเหงาเป็นลำดับแรก แต่จะนึกถึง “ความเคียดแค้นชิงชัง” เป็นลำดับแรกสุด

สรุปว่าดิฉันรู้สึกว่า SEASONS CHANGE และ “สงกรานต์” เป็นหนังที่ดีมาก เพียงแต่ว่ามันไม่โดนใจดิฉันอย่างรุนแรงเพียงเพราะชีวิตส่วนตัวของดิฉันเท่านั้นเอง


4.THE GIG (2006, ธีระธร สิริพันธุ์วราภรณ์, A/A-)
ชอบดาราชายในหนังเรื่องนี้มาก


5.THE HILLS HAVE EYES (2006, ALEXANDRE AJA, A-)


6.SPIN KICK (2004, NAM SANG-GUK, B+)
http://www.imdb.com/title/tt0406713/
ชอบดาราชายในหนังเรื่องนี้มาก


--ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายหลายๆเรื่องที่ชอบมาก

1.UNINVITED (2003, LEE SU-YEON, A+)

2.BLOW UP MY TOWN (1968, CHANTAL AKERMAN, A+)

3.THE DEVIL, PROBABLY (ROBERT BRESSON, A+)
http://www.alyon.org/generale/theatre/cinema/affiches_cinema/l/le_de-le_gl/le_diable_probablement.jpg

4.LE FEU FOLLET (1963, LOUIS MALLE, A+)
http://images-eu.amazon.com/images/P/B000CR7V80.08.LZZZZZZZ.jpg
http://www.skgiessen.de/movies/loadm.php?Mimg=Feu%20Follet

5.THE HOURS (STEPHEN DALDRY, A+)

6.SYLVIA (2003, CHRISTINE JEFFS, A+)

7.NO PLACE TO GO (2000, OSKAR ROEHLER, A+)
หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับแม่ของ OSKAR ROEHLER ที่ฆ่าตัวตาย
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B000056IUZ.03._SS500_SCLZZZZZZZ_V1057220742_.jpg

8.THE SEVENTH CONTINENT (MICHAEL HANEKE, A+)

9.SUMMER PALACE (2006, LOU YE, A+)

10.PARADISE NOW (HANY ABU-ASSAD, A+)

11.THE INGRATITUDE (2005, SETTHAWIT PUNPANG, A+)

12.TERRACE (2006, SONG DI, A+)


--หนังเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายอีกหลายๆเรื่องที่อยากดู แต่ยังไม่ได้ดู

1.IT’S A WONDERFUL LIFE (1946, FRANK CAPRA)
คุณ FILMSICK เพิ่งเขียนถึงหนังเรื่องนี้เอาไว้ค่ะ อ่านได้ที่
http://filmsick.exteen.com/20060829/james-stewart

2.THE JOY OF LIFE (2005, JENNI OLSON, A+)
หนังเรื่องนี้มีวางขายแล้วในรูปแบบดีวีดีนับตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. 2006 โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับสะพานโกลเด้นเกทในซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นจุดที่คนชอบมาฆ่าตัวตาย และเรื่องราวความรักของเลสเบียน

http://www.amazon.com/Joy-Life-Jenni-Olson/dp/B000FP2YR2/ref=pd_sxp_f_i/104-8102393-4551902?ie=UTF8

The Joy of Life is an unconventional blending of documentary and experimental narrative strategies, combining stunning 16mm landscape cinematography with a bold, lyrical voiceover (performed by LA-based artist/actor Harriet "Harry" Dodge) to share two San Francisco stories: the history of the Golden Gate Bridge as "suicide landmark," and the story of a butch dyke in San Francisco searching for love and self-discovery. The Joy of Life is a film about landscapes, both physical and emotional.

http://images.amazon.com/images/P/B000FP2YR2.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V65365443_.jpg


3.THE BRIDGE (2006, ERIC STEEL)
http://www.imdb.com/title/tt0799954/

หนังสารคดีเรื่องนี้ติดตามถ่ายทำคนที่มาฆ่าตัวตายที่สะพานโกลเด้น เกทเป็นเวลานาน 1 ปี โดยผู้กำกับหนังเรื่องนี้ได้ตั้งกล้องไว้ที่สะพานทุกวันในปี 2004 และกล้องก็บันทึกภาพการฆ่าตัวตายของคนหลายคนที่สะพานแห่งนี้เอาไว้ได้ หลังจากนั้นผู้กำกับก็ได้เดินทางไปสัมภาษณ์ญาติๆและเพื่อนๆของคนที่ฆ่าตัวตาย เพื่อพยายามทำความเข้าใจกับชีวิตของคนที่ฆ่าตัวตายเหล่านั้น

ดูเทรลเลอร์ที่งดงามมากๆของ THE BRIDGE ได้ที่
http://-trailers.blogspot.com/2006/08/bridge-2006-trailer.html

Steel and his crew filmed the bridge during daylight hours from two separate locations for all of 2004, recording most of the two dozen deaths in that year (and preventing several others).


4.THE CULT OF THE SUICIDE BOMBER (2005, DAVID BATTY + KEVIN TOOLIS)

หนังสารคดีเรื่องนี้มีวางขายในรูปแบบดีวีดีตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. 2006 โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับมือระเบิดพลีชีพ โดยผู้ที่ทำหน้าที่ติดตามสัมภาษณ์กลุ่มมือระเบิดพลีชีพในหนังเรื่องนี้คือ ROBERT BAER ซึ่งเป็นอดีตซีไอเอในตะวันออกกลาง และเป็นที่มาของตัวละครในภาพยนตร์ดังเรื่อง SYRIANA

http://www.amazon.com/Cult-Suicide-Bomber-Robert-Baer/dp/B000FG8BO6/ref=pd_sxp_f_i/104-8102393-4551902?ie=UTF8

http://ec3.images-amazon.com/images/P/B000FG8BO6.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V52602673_.jpg


5.DAY NIGHT DAY NIGHT (2006, JULIA LOKTEV)
http://www.e.bell.ca/filmfest/2006/films_schedules/films_description.asp?id=92
http://outnow.ch/Media/Img/2006/DayNightDayNight/

ภาพยนตร์เกี่ยวกับหญิงสาววัย 19 ปีที่เป็นมือระเบิดพลีชีพ หนังเรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ว่า RADICALLY MINIMALIST และเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่มีการให้คำตอบใดๆทั้งสิ้น
http://www.filmmakermagazine.com/summer2005/columns/in_focus.php
“There is no attempt psychologically, sociologically or otherwise to explain her actions,” says Loktev. “

As spare and concerned with minutiae as the film's first half is, so its second half is forceful and teeming with suspense, fear and emotion. Rather than answering the who and the why, the filmmaker asks us to speculate about emotion and time as experienced by someone who has chosen when and how they will die. Loktev does this in a manner that doesn't require us to be sympathetic, but to travel alongside and draw our own conclusions.
http://www.e.bell.ca/filmfest/2006/med/filmPics/92.jpg
http://www.filmmakermagazine.com/summer2005/columns/images/in_focus_project.jpg
http://www.esnips.com/imageable/large/7a3036e3-d9dd-4acd-8a8c-0e8fe0c05847
http://www.esnips.com/imageable/large/b708ecde-84df-479a-9e6d-1116456ab595
http://www.esnips.com/imageable/large/63d0ae23-7e7c-4701-beed-85154f87146c
http://www.esnips.com/imageable/large/dec8eedf-79a4-4c57-9d16-f52f582f68d6
http://www.esnips.com/imageable/large/1822a214-41c6-4a9f-9c3a-d8a8fd360efa


6.JONESTOWN: THE LIFE AND DEATH OF PEOPLES TEMPLE (2006, STANLEY NELSON)

หนังสารคดีเกี่ยวกับคนกว่า 900 คนในลัทธิ PEOPLES TEMPLE ที่ฆ่าตัวตายหมู่ในปี 1978 ใน GUYANA ตามคำสั่งของ JIM JONES ซึ่งเป็นเจ้าลัทธิ

http://images.amazon.com/images/P/0385489846.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

No comments: