Thursday, November 16, 2006

CRUEL NATURE

screenout page 161
http://xq28.net/s/viewtopic.php?t=3437&start=4000


ตอบน้อง zm

ฝันของน้องฮามากๆเลยค่ะ น่าจะเอามาดัดแปลงทำเป็นหนังมากๆ ชอบทุกฉากโดยเฉพาะฉากแรกของเรื่อง ที่มีการใช้ “โถส้วม” เป็นทางออกลี้ลับ และมีชายหนุ่มร่างกำยำมาแสดงในฉาก ถ้าหากเอาฝันของน้องมาทำเป็นหนัง น้องอาจได้เป็นคู่แข่งของหลุยส์ บุนเยล และเดวิด ลินช์ก็ได้ ฮ่าๆๆๆ


ตอบคุณย้งยี้

--ยังไม่ได้ดู LOVE PHOBIA (2006, KANG JI-EUN) เลยค่ะ แต่ก็อยากดู เพราะชอบ KANG HYE-JEONG นางเอกหนังเรื่องนี้ เธอเคยแสดงเรื่อง

1.NABI (2001, MOON SEUNG-WOOK, A+)

2.INVISIBLE WAVES (2006, PEN-EK RATANARUANG, A+)

3.OLDBOY (2003, PARK CHAN-WOOK, A)

4.THREE…EXTREMES: CUT (2004, PARK CHAN-WOOK, A-/B+)


--STORMY NIGHT

--ชอบท่าเดินส่ายก้นของเมอิมากๆเหมือนกันค่ะใน STORMY NIGHT เธอดูน่ารักมากๆในฉากนั้น

--ไม่ทันได้สังเกตเรื่อง “คู่สี” ในหนังเลยค่ะ

--อีกจุดที่ชอบสุดๆในหนังเรื่องนี้ ก็คือการแสดงให้เห็นถึง “ความโหดร้ายของธรรมชาติ” ค่ะ เพราะ “ธรรมชาติ” ในหนังเรื่องนี้ บังคับให้ทั้งคู่ต้องเป็นศัตรูกันโดยแทบไม่มีทางเลือก และกาฟก็ต้องพยายามต่อสู้กับธรรมชาติและสัญชาตญาณของตัวเองอย่างรุนแรงมาก ถึงจะสามารถอยู่ร่วมกับเมอิอย่างตลอดรอดฝั่งได้ ถ้าหากกาฟไม่สามารถเอาชนะ “ธรรมชาติอันโหดร้าย” ของตัวเองได้แล้ว หนังเรื่องนี้ก็คงจะจบลงอย่างโศกนาฏกรรม

คือว่าในบางครั้งดิฉันจะรู้สึกเบื่อๆหนังที่ให้อารมณ์ประเภท “เมืองใหญ่เลว ชนบทดี” หรือหนังประเภท “เราควรกลับสู่ธรรมชาติ” น่ะค่ะ และนั่นก็เลยเป็นเหตุให้ชอบหนังบางเรื่องที่แสดงให้เห็นว่า “ชนบทก็มีความเลวในแบบของมันเอง” หรือหนังประเภทที่แสดงให้เห็นว่า “ธรรมชาติช่างโหดร้ายยิ่งนัก” ค่ะ และ STORMY NIGHT ก็โดนใจดิฉันตรงจุดนี้

มีหนังสารคดีอีกสองเรื่องที่โดนใจดิฉันตรงจุดนี้เหมือนกันค่ะ นั่นก็คือ GRIZZLY MAN (WERNER HERZOG, A+) และ HUNTING THE LION WITH BOW AND ARROWS (1965, JEAN ROUCH, A+) เพราะหนังสองเรื่องนี้สะท้อนกฎเกณฑ์อันโหดร้ายของธรรมชาติเช่นกัน โดยใน GRIZZLY MAN นั้น พระเอกของเรื่องพยายามจะทำตัวเหมือนกับเมอิ นั่นก็คือผูกมิตรกับสัตว์ที่สามารถกินเขาเป็นอาหาร แต่ผลปรากฏว่า ในที่สุดเขาก็เลยถูกสัตว์ประเภทนั้นกินไปจริงๆ แถมแฟนสาวของเขาก็พลอยถูกหมีฆ่าตายไปด้วย

ส่วนใน HUNTING THE LION WITH BOW AND ARROWS นั้น หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นชาวป่าพื้นเมืองที่ต้องฆ่าสิงโตที่มากินปศุสัตว์ที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้ ซึ่งดิฉันดูแล้วก็รู้สึกสงสาร “ทุกฝ่าย” ในหนังเรื่องนี้ ทุกฝ่ายในหนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่พวกเขาก็ต้องฆ่ากันเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ปศุสัตว์ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่พวกมันก็ต้องถูกสิงโตฆ่าตาย สิงโตเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด มันไม่ได้ฆ่าปศุสัตว์เพราะกิเลสตัณหา แต่มันต้องฆ่าปศุสัตว์กินเพื่อความอยู่รอดของมัน ส่วนชาวบ้านก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะถ้าหากพวกเขาไม่ฆ่าสิงโต พวกเขาก็ไม่สามารถเลี้ยงปศุสัตว์ได้ต่อไป ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็ทำให้รู้สึกว่า ถ้าหากธรรมชาติสร้างให้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้อง “กิน” ซะ ทุกฝ่ายก็น่าจะอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ต้องฆ่ากัน

พอพูดถึงหนังสารคดีสองเรื่องนี้แล้ว ดิฉันก็คิดว่า STORMY NIGHT ได้ใช้ประโยชน์จากความเป็นหนังแอนิเมชั่น/แฟนตาซีของตัวมันเองได้ดีมากค่ะ เพราะข้อดีหรือข้อได้เปรียบอย่างนึงของหนังแฟนตาซี ก็คือการนำเสนอโลกในอุดมคติที่ยากจะเป็นจริงได้ และ STORMY NIGHT ก็ทำหน้าที่นี้ได้ดีมาก หนังเรื่องนี้ให้ภาพของสัตว์ที่สามารถเอาชนะธรรมชาติในตัวมันเอง และให้ภาพของดินแดนที่สัตว์เหล่านั้นสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ในขณะที่ GRIZZLY MAN ช่วยตอกย้ำได้เป็นอย่างดีว่าโลกแห่งความจริงเป็นเช่นใด


ตอบคุณอ้วน ต่อจากที่คุยกันนอกรอบ

--พอดีได้คุยกับคุณอ้วนนอกรอบเรื่องโคลงฉันท์กาพย์กลอนน่ะค่ะ แต่ขณะที่คุยกัน ดิฉันไม่สามารถยกตัวอย่างโคลงกลอนมาประกอบการคุยได้ เพราะดิฉันจำโคลงกลอนเหล่านั้นไม่ได้ ก็เลยถือโอกาสนี้มาแปะโคลงกลอนให้คุณอ้วนได้อ่านไว้เป็นตัวอย่างน่ะค่ะ

สำหรับกลบทที่มีการอ่านถอยหลังนั้น คุณอ้วนสามารถอ่านได้ที่นี่ค่ะ
http://www.geocities.com/bot_kawee/kolbot2-6.htm

ส่วนอันนี้เป็นตัวอย่าง โคลงสี่สุภาพค่ะ

โคลงอีร่าน

ครรโคลงอีร่านนี้ เนานาน
มีแต่โบราณกาล เก่าแท้
อีร่านล่าชำนาญ สุดแร่ด จริงเอย
ชายทั่วบ้านเมืองแล้ ใช่แล้ว ผัวมัน

No comments: