Sunday, August 12, 2007

DOR DEK CHOR CHANG (2002, SONGYOS SUKMAKANANT, A+)

THIS IS MY COMMENT IN BIOSCOPE WEBBOARD
http://www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=367.0

ตอบน้อง NANOGUY

เรื่องเจอครูตัดเกรดไม่เป็นธรรมนี่เป็นปัญหาที่น่าหนักใจมากๆค่ะ ดิฉันเองก็ยังไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้กับตัวเอง แต่สมัยที่ดิฉันเรียนอยู่มหาลัย ดิฉันก็กลัวปัญหาแบบนี้มาก นั่นก็เลยเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้ดิฉันไม่เลือกวิชาเลือกเสรีในสาขา “ปรัชญา” หรืออะไรทำนองนี้ เพราะดิฉันเดาเอาว่าวิชาแบบปรัชญานั้น การให้คะแนนงานสอบของนักศึกษามันอาจจะเกิดความไม่เป็นธรรมได้ง่ายมากๆ ถ้าหากนักศึกษาผู้นั้นเขียนในสิ่งที่ขัดกับทัศนคติส่วนตัวของอาจารย์ผู้สอน อันนี้ดิฉันเดาเอาเองนะคะ ไม่รู้ว่าดิฉันกลัวจนเกินเหตุหรือเปล่า ดิฉันเดาเอาเองว่าวิชาแบบปรัชญาหรืออะไรทำนองนี้ มันใช้เกณฑ์ตัดสินที่มีมาตรฐานเป็นรูปธรรมได้ยากมากๆ เพราะฉะนั้นดิฉันก็เลยไม่เลือกเรียนดีกว่า

แต่อย่างไรก็ดี ดิฉันก็ไปเจอปัญหาในวิชานึงเข้าค่ะ นั่นก็คือวิชา CRITICAL READING หรืออะไรทำนองนี้ ซึ่งเป็นวิชาที่ให้อ่านบทความภาษาอังกฤษแล้ววิเคราะห์บทความนั้นโดยใช้เหตุผล ตอนที่ดิฉันเรียนวิชานี้ในคาบแรกๆ ดิฉันก็พบว่าดิฉันมีความเห็นขัดแย้งกับอาจารย์ เพราะอาจารย์บอกว่า “บทความนี้เป็นบทความที่น่าเชื่อถือ เพราะมันมาจากนสพ.... (ดิฉันไม่ขอเอ่ยชื่อ) ซึ่งเป็นนสพ.ที่น่าเชื่อถือ” แต่ดิฉันก็ไม่เห็นด้วย เพราะดิฉันคิดว่า ไม่ว่าบทความนั้นมันจะมาจากนสพ.อะไรก็ตาม มันก็ไม่สามารถรับประกันได้นี่นาว่ามันจะน่าเชื่อถือ ดังนั้นดิฉันก็เลยได้ข้อสรุปว่า ถ้าหากเราอยากได้เกรดดีๆจากวิชาอะไรก็ตาม สิ่งที่เราต้องเรียนรู้เป็นอย่างยิ่งก็คือเรียนรู้ “ทัศนคติ” ของอาจารย์ ไม่ใช่เรียนรู้เฉพาะเนื้อหาในวิชานั้นๆ และจงพยายามตอบข้อสอบให้สอดคล้องกับทัศนคติของอาจารย์ให้มากที่สุด ไม่ใช่ตอบข้อสอบให้สอดคล้องกับทัศนคติหรือความคิดเห็นที่แท้จริงของตัวเอง


ตอบคุณ x6jo

ดิฉันเองก็ยังไม่เคยดูผลงานการแสดงของ JENSEN ACKLES เหมือนกันค่ะ แต่ถ้าอยากดูผลงานการแสดงของเขา ก็อาจจะลองไปเดินๆดูตามแผงดีวีดีเพื่อหาดีวีดีละครโทรทัศน์ชุด SUPERNATURAL ซึ่งดิฉันเดาเอาเองว่าน่าจะมีหลุดเข้ามาขายที่เมืองไทยบ้างแล้วเหมือนกัน

อันนี้เป็นดีวีดี SUPERNATURAL – THE FIRST SEASON ซึ่งประกอบด้วย 6 แผ่น
http://ec1.images-amazon.com/images/I/612KGQHBWXL._SS500_.jpg

อันนี้เป็นดีวีดีซีซั่นสอง ซึ่งจะออกวางจำหน่ายในวันที่ 11 ก.ย.ปีนี้
http://ec1.images-amazon.com/images/I/51cTp-EkRaL._SS500_.jpg

synopsis from http://www.amazon.com/

“This television drama is about two brothers, Sam and Dean, who were raised by their father, John, to hunt and kill all things that go "bump in the night" after his wife, Mary, was murdered by something supernaturally evil when the boys were young. 22 years later the brothers set out on a journey, fighting evil along the way, to find their recently missing father who, when they finally meet up with, reveals he knows what killed their mother, a demon, and has found a way to track and kill it. Meanwhile, Sam starts to develop frightening abilities that include death visions, visions of people dying before it actually happens. These visions are somehow connected to the demon who murdered his mother and it's mysterious plans that seem to be all about Sam. When their father dies striking a deal with the very same devil that had killed his wife, the brothers, now alone and without their mentor, are determined to finish the crusade their father started. But disturbing revelations about Sam's part in the demon's apocalyptic plans are presented when John's dying last words to Dean are revealed.”



ตอบน้อง merveillesxx

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเป็นอาจารย์คนเดียวกันหรือเปล่า เพราะอาจารย์ที่พี่เกลียดมากๆเขามีอายุมากพอสมควรแล้ว แล้วน้อง merveillesxx ก็มีอายุห่างจากพี่ตั้ง 12 ปี พี่ก็เลยเดาว่าบางทีอาจารย์คนนั้นอาจจะเกษียณไปแล้วก่อนที่น้อง merveillesxx จะขึ้นชั้นมัธยม

พูดถึงอาจารย์ในโรงเรียนแล้ว ก็ทำให้จำแนกอาจารย์ที่น่าสนใจออกได้เป็นหลายๆกลุ่ม อย่างเช่น

1.อาจารย์ที่ใจดี และสอนดี นักเรียนจะรุมรักอาจารย์ประเภทนี้มากๆ

2.อาจารย์ที่ดิฉันเกลียด ซึ่งได้แก่อาจารย์ที่ชอบออกกฎระเบียบที่ไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือออกกฎระเบียบที่ไม่เป็นธรรม

3.อาจารย์ที่ใจดี แต่ไม่ค่อยมีความสามารถทางการสอน อาจารย์กลุ่มนี้จะน่าสงสารมากๆในความเห็นของดิฉัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดิฉันไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการเรียนหรือเปล่า ดิฉันจึงมักจะเห็นว่าอาจารย์ที่สอนหนังสือห่วย ไม่ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงแต่อย่างใดในสายตาของดิฉัน แต่นักเรียนหลายๆคนที่ดิฉันรู้จักมักจะเกลียดอาจารย์ประเภทนี้มากๆ และนักเรียนก็มักจะทำอะไรที่ทำร้ายความรู้สึกของอาจารย์กลุ่มนี้อยู่บ่อยๆ ประเด็นนี้ดิฉันคิดว่ามันเป็น MORAL DILEMMA สำหรับดิฉันอยู่เหมือนกัน เพราะดิฉันตัดสินใจได้ยากว่าใครถูกหรือผิด คือในแง่นึงนักเรียนก็ไม่ผิดที่ต้องการวิชาความรู้ที่ดีที่สุดจากอาจารย์ เพราะฉะนั้นนักเรียนจึงมีสิทธิเรียกร้องเพื่อให้ตัวเองได้รับความรู้จากอาจารย์ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงในการถ่ายทอดความรู้ แต่ในความรู้สึกส่วนตัวของดิฉัน (ซึ่งเป็นเด็กร่าน ไม่ใช่เด็กเรียน) ดิฉันรู้สึกสงสารเห็นใจอาจารย์กลุ่มนี้มากๆ และดิฉันรู้สึกว่านักเรียนโหดร้ายกับอาจารย์กลุ่มนี้มากเกินไป ดิฉันไม่ได้คิดว่าอาจารย์กลุ่มนี้ขี้เกียจหรือไม่มีความพยายามนะ ดิฉันคิดว่าอาจารย์กลุ่มนี้ขยันแล้ว และก็ใช้ความพยายามแล้ว และก็ตั้งใจจริงในการสอนแล้ว แต่ลักษณะเฉพาะประจำตัวเขาที่มันอาจจะติดตัวเขามาตั้งแต่กำเนิดมันทำให้เขาสื่อสารกับนักเรียนทั่วไปได้ยากสักหน่อย

หนึ่งในอาจารย์ที่น่าสงสารที่สุดที่ดิฉันเคยเจอมาคืออาจารย์มหาลัยคนนึงที่จบปริญญาตรีและปริญญาโทในเมืองไทย แต่พอเขาเข้ามาสอนนิสิตปริญญาตรี เพื่อนๆหลายคนของดิฉันในมหาลัยกลับต่อต้านเขา หาว่าเขาไม่มีวุฒิความรู้เพียงพอที่จะมาสอนนิสิตได้ และเหล่าเพื่อนๆนิสิตของดิฉันก็หาทางกดดันต่างๆนานาจนอาจารย์คนนั้นต้องลาออกจากคณะไปอย่างรวดเร็ว ดิฉันรู้สึกสงสารอาจารย์คนนั้นมากๆ

อาจารย์อีกคนนึงที่น่าสงสารมากคืออาจารย์สมัยมัธยมคนนึง ที่ดูเหมือนไม่มีใครคบเธอเลย เธอเป็นอาจารย์แก่ๆที่มีโต๊ะประจำตัวอยู่ในซอกหลืบนึงของตึก แทนที่โต๊ะของเธอจะได้อยู่ในห้องพักครูของหมวดวิชานั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมโต๊ะทำงานของเธอถึงไม่ได้อยู่ในห้องพักครูเหมือนอาจารย์คนอื่นๆ เธอสอนหนังสือไม่เก่ง และสิ่งที่น่าสงสารที่สุดก็คือดูเหมือนเพื่อนอาจารย์คนอื่นๆก็ไม่คบเธอเลย ฉากที่ฝังใจดิฉันคือฉากงานเลี้ยงปัจฉิมนิเทศที่โรงอาหารที่อาจารย์หลายๆคนมาร่วมงานด้วย แต่อาจารย์คนนั้นมองงานเลี้ยงรื่นเริงอยู่ข้างนอกโรงอาหารอยู่แป๊บนึง แล้วเธอก็เดินไป ไม่ได้เข้ามาร่วมในงานด้วย เธอคงรู้ดีว่าไม่มีทั้งนักเรียนหรือเพื่อนครูคนใดที่อยากจะสุงสิงกับเธอในงานเลี้ยงรื่นเริง

แต่อาจารย์คนนี้ก็มีอะไรฮาๆอยู่เหมือนกัน เนื่องจากว่าเธอสอนหนังสือไม่เก่ง นักเรียนก็เลยพยายามหาเหตุผลต่างๆนานามาขัดขวางการสอนของเธอ ซึ่งวิธีการที่ใช้ได้ผลดีที่สุดก็คือการยุให้เธอร้องเพลงในห้องเรียน เพราะฉะนั้นในการเรียนการสอนหลายๆครั้ง นักเรียนก็จะพยายามพูดจาชื่นชมการร้องเพลงของเธอต่างๆนานา พูดว่าอยากฟังเธอร้องเพลงนู้นอยากฟังเธอร้องเพลงนี้ แล้วเธอก็จะเชื่อ และจับไมโครโฟนร้องเพลงให้นักเรียนฟัง ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าจริงๆแล้วนักเรียนไม่ได้ชื่นชอบการร้องเพลงของเธอหรอก แต่นักเรียนขี้เกียจฟังเธอสอนต่างหาก


4.อาจารย์ที่ดีกับลูกศิษย์ แต่เลวกับอาจารย์ด้วยกันเอง ซึ่งอาจารย์ประเภทนี้มีเยอะมากๆ มีอาจารย์หลายคนมากที่ดีกับดิฉัน สอนหนังสือเก่ง และไม่เคยสร้างปัญหาให้กับดิฉันในฐานะนักเรียนแต่อย่างใด แต่กับอาจารย์ด้วยกันเองแล้ว พวกเขาทำตัวชั่วช้าสารเลวใส่กันอย่างมากๆ (น้อง merveillesxx คงนึกออกว่าโรงเรียนของเรานั้น นักเรียนหลายคนเป็นลูกอาจารย์ เพราะฉะนั้นความชั่วช้าสารเลวที่อาจารย์ทำใส่กัน จึงรู้ถึงหูของนักเรียนอย่างรวดเร็ว)

หนึ่งในอาจารย์ที่ดิฉัน “มองธาตุแท้ไม่ออก” ก็คืออาจารย์สอนพุทธศาสนาคนนึง เธอดูดีมากๆในสายตาของดิฉัน ดิฉันไม่เคยคิดอะไรในแง่ลบกับเธอเลยสมัยอยู่ชั้นมัธยม แต่หลังจากจบชั้นมัธยมมาได้ไม่นาน เพื่อนสนิทดิฉันก็มาเล่าให้ฟังว่า ยัยอาจารย์สอนพุทธศาสนาคนนี้นี่แหละ พยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมเพทุบายต่างๆนานาเพื่อจะมาโกงที่ดินของเพื่อนดิฉันไป

--ถ้าหากพูดถึงหนังเกี่ยวกับครูอาจารย์แล้ว หนึ่งในหนังที่ดิฉันชอบที่สุด ก็คงจะรวมถึงเรื่อง “ด.เด็ก ช.ช้าง” (2002, ทรงยศ สุขมากอนันต์, A+) ในฐานะที่หนังเรื่องนี้นำเสนออาจารย์ที่สมควรโดนตบมากที่สุดคนนึงเท่าที่เคยดูมา




No comments: