Tuesday, August 28, 2007

THREE EMOTIONS OF THAI DOCUMENTARIES

THIS IS MY COMMENT IN FILMSICK’S BLOG
http://filmsick.exteen.com/20070828/when-a-woman-ascends-the-stair

แวะมาบอกสั้นๆว่า ดิฉันขอจอง TATSUYA NAKADAI ที่รับบทผู้จัดการร้านใน WHEN A WOMAN ASCENDS THE STAIRS ค่ะ เขาหล่อมากๆ

ถ้าจำไม่ผิด ดิฉันจำชื่อของ MIKIO NARUSE ได้เป็นครั้งแรก เพราะ SUSAN SONTAG (นักวิจารณ์ภาพยนตร์และอีกหลายอาชีพ) ชื่นชอบ MIKIO NARUSE มากๆ

ผู้กำกับภาพยนตร์ญี่ปุ่นยุคเก่าอีกคนหนึ่ง ที่ดิฉันอยากดูหนังของเขาอย่างมากๆคือ HIROSHI SHIMIZU (1903-1966) รู้สึกว่าหนังดังของเขาคือ JAPANESE GIRLS AT THE HARBOR (1933)

ถ้าชอบหนังญี่ปุ่นยุคเก่า ขอแนะนำบล็อกข้างล่างนี้ค่ะ
http://rozmon.blogspot.com


THIS IS MY COMMENT IN GRAPPA’S BLOG
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=a-wild-sheep-chase&month=08-2007&group=4&date=22&gblog=84

ข้างล่างนี้เป็นอีเมล์ของคุณทศพล บุญสินสุขค่ะ เผื่อใครรอต่อคิวไม่ไหวและอยากติดต่อเขาโดยตรงเพื่อขอดูดีวีดี

pok_office(at)yahoo(dot)co(dot)uk

ดิฉันเขียน (at) แทน @ และเขียน (dot) แทน “.” ไว้ในเบอร์อีเมล์ข้างบนนะคะ เพื่อที่เบอร์อีเมล์ของเขาจะได้ไม่โดน automatic spam

ปีนี้มีหนังสั้นอีกเรื่องนึงที่น่าจะได้รับแรงบันดาลใจจาก MURAKAMI โดยตรง นั่นก็คือเรื่อง “สดับลมขับขาน” หรือ HEAR THE WIND SING (2007, Unnop Saguanchat, 7 min, A+) เป็นหนังที่เน้นถ่ายบรรยากาศโล่งๆ ของสถานที่ และเหมือนมีเสียงกระซิบบางอย่างลอยแว่วมาในสายลมเป็นระยะๆ หนังเรื่องนี้อยู่ในกลุ่มไทยอินดี้ค่ะ ถ้าใครสนใจจะดูหนังเรื่องนี้ อาจต้องลองติดต่อไปที่ http://thaiindie.com

ขอกราบขอบพระคุณคุณ grappa เป็นอย่างยิ่งค่ะที่ช่วยเขียนถึงหนังของคุณทศพล บุญสินสุข


THIS IS MY COMMENT IN BIOSCOPE WEBBOARD
http://www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=484.0

THIS IS DECHITO’S COMMENT ON “VATZLAV”
http://dechito.blogspot.com/2007/08/vatzslav-2007.html


http://www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=492.90

--ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของคุณสิทธิพงศ์ เปรมปรีดิ์ด้วยค่ะ

--THIS IS WISE KWAI’S COMMENTS ON THUNSKA PANSITTIVORAKUL
http://www.rottentomatoes.com/vine/journal_view.php?journalid=100000335&entryid=444125&view=public

--THIS IS MATTHEW HUNT’S COMMENTS ON THE SPOKEN SILENCE PROGRAM AND THUNSKA PANSITTIVORAKUL
http://www.matthewhunt.com/blog/2007/08/thai-short-film-video-festival-2007.html


ตอบน้อง merveillesxx

ขอบคุณมากค่ะที่ทำลิงค์ไปที่คลิปงานประกาศผลรางวัล ดิฉันจะได้ดูบรรยากาศในงานด้วย ปีนี้ดิฉันไม่ได้ไปร่วมงานประกาศผล เพราะไปดูการแสดง REMEMBER..WHAT YOU HAVE DONE IN 24 HOURS (2007, Jitti Chompee + Sarawanee Tanatanit, A) ที่ภัทราวดีเธียเตอร์แทน แต่ก็ดูเหมือนจะหนีผลงานของคุณ Uruphong Raksasad ไม่พ้นในคืนนั้น เพราะใน REMEMBER…WHAT YOU HAVE DONE IN 24 HOURS มีการฉายวิดีโอ POLLUTION AND HUMAN PROTECTION ที่มีการนำภาพ CLOUD FOOTAGE ของคุณ Urupong Raksasad มาใส่ไว้ด้วย

POLLUTION AND HUMAN PROTECTION เป็นผลงานวิดีโอของ Tanon Sattarujawong (ผู้กำกับหนังสั้นเรื่อง “โรค-ติด-ต่อ”) + Marco Steiner โดยตากล้องของวิดีโอนี้คือ Jakrawal Nilthamrong (ผู้กำกับ MAN WITH A VIDEO CAMERA, THE VOYAGE OF FORETELLER, DRIPPING, PATTERNS OF TRANSCENDENCE) กับ Sivaroj Kongsakul (ผู้กำกับ ALWAYS, DINNER)

รู้สึกดีที่เห็นผู้กำกับหนังสั้นหลายๆคนได้ทำงานศิลปะในรูปแบบต่างๆนอกเหนือจากงานโฆษณา ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งแรกของดิฉันที่ได้เห็นผู้กำกับหนังสั้นมาทำวิดีโอประกอบการแสดงเต้นรำ และหวังว่าคงจะมีผู้กำกับหนังสั้นทำงานแปลกๆแบบนี้ออกมาอีก

จริงๆแล้วผู้กำกับหนังสั้นหลายคนก็มีการจัดแสดงงานศิลปะของตัวเองเป็นครั้งคราวเหมือนกัน แต่เนื่องจากดิฉันเป็นโรคขี้เกียจสันหลังยาว ดิฉันก็เลยไม่ได้ไปติดตามดูผลงานของผู้กำกับเหล่านี้เอง ล่าสุดที่ดิฉันพลาดไม่ได้ไปดูก็คืองานแสดงศิลปะของคุณศุภฤกษ์ คณิตวรานันท์ (ผู้กำกับ BLIND SPOT (2005, 16 min, A+)) ที่หอศิลป์แห่งชาติ เพราะมันตรงกับช่วง Bangkok International Film Festival พอดี

แต่ที่ดิฉันจะพยายามหาเวลาไปดูให้ได้ในช่วงนี้ ก็คืองาน “ไร้ชื่อ” ของคุณ Michael Shaowanasai ซึ่งจะจัดแสดงขึ้น ในวันที่ 18 สิงหาคม – 22 กันยายน 2550 ณ นำทอง แกลเลอรี่ 1129/29 อาคารสหกรณ์เคหะสถานกรุงเทพฯ, ถนนเทอดดำริ, เขตดุสิตกรุงเทพฯ 10300

โทรศัพท์/โทรสาร 02 243-4326

เปิดให้เข้าชมในวัน จันทร์ - วันเสาร์ เวลา 11.00 น. – 18.00 น.

เมื่อกี้ลองโทรไปถามทางแกลเลอรี่แล้ว เขาบอกว่าตึกของเขาอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟสามเสน เป็นตึกเก่าๆ แกลเลอรี่อยู่ที่ชั้นสองของตึก

ดูโปรแกรมงานแสดงศิลปะอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่
http://www.fineart-magazine.com/event2.html


ตอบน้อง NANOGUY

พี่เป็นโรคจิต ชอบทำอะไรที่ไม่มีสาระ ตอนที่ดู THE ROCKET ของ Uruphong Raksasad พี่เลยนั่งนับเล่นๆว่ามันมีการยิงบั้งไฟประมาณกี่ครั้งในหนังเรื่องนี้ นับได้ประมาณ 50 ครั้ง แต่ไม่แน่ใจว่า 50 ลูกหรือเปล่า เพราะบางลูกอาจจะถูกนำเสนอ 2 ครั้งในการถ่ายระยะใกล้ครั้งนึงกับระยะไกลครั้งนึงหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อย่างไรก็ดี ข้อมูลเหล่านี้ไม่มีความสำคัญใดๆทั้งสิ้น พี่นั่งนับเล่นๆเพื่อความสนุกของตัวเอง

ไม่รู้ว่ามีหนังไทยเรื่องไหนเคยนำเสนอพิธี “แห่นางแมวขอฝน” บ้างหรือเปล่า อยากเห็นเหมือนกัน

ตอนที่ดูหนังสารคดี ก็แอบแบ่งอารมณ์ที่ได้จากหนังออกเป็นกลุ่มๆเหมือนกัน นั่นก็คืออารมณ์ “ซึ้งๆ” ที่ได้จากหนังเรื่อง ONE TRUE THING กับ THE SPECTRUM, อารมณ์ต่อต้านความซึ้งที่ได้จาก THE INSTRUCTIONAL MANUAL OF AERIAL VIDEOGRAPHY FOR WEDDING PRESENTATION (จริงๆแล้วหนังเรื่องนี้ก็แอบซึ้งตอนจบนะ แต่มันแทบไม่ได้ถูกเน้นย้ำมากเท่ากับส่วนที่ล้อเลียนความซึ้งในวิดีโองานแต่งงาน) ส่วนอารมณ์ที่ได้จาก THE ROCKET มันเป็นอารมณ์ที่ดีมากๆ มันจะซึ้งก็ไม่ใช่, ต่อต้านความซึ้งก็ไม่ใช่ เราสามารถเรียกอารมณ์แบบนี้ว่าอารมณ์อุเบกขาได้หรือเปล่า

ได้ดูหนังสั้นจากอินเดียเรื่อง THE CRAZY ON THE ROCKS (2007, Altaf Mazid, 15 min, A+) ในงานหนังสั้นครั้งนี้ เราว่ามันให้อารมณ์แบบที่ไปกันได้กับหนังของคุณ Uruphong นะ มันเป็นการถ่ายทอดสภาพชีวิตในชนบทด้วยความรักในสิ่งที่ตัวเองกำลังถ่าย โดยไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การเล่าเรื่อง


ตอบคุณ TAXI_ARNON

ดีใจมากค่ะที่คุณ TAXI_ARNON ให้รางวัลกับ A STRANGER FROM THE SOUTH เมื่อกี้ดิฉันลองเปิดสูจิบัตรของงานดูเล่นๆ พบว่าคุณพุทธิพงษ์ อรุณเพ็ง กำกับหนังเรื่อง “ผมสาบาน..มันไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ” (I SWEAR…IT’S JUST A COMMERCIAL FILM” (2007, 4.32 min) ด้วย น่าเสียดายที่ดิฉันไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ในรอบมาราธอน แต่ก็อยากดูมากๆ

สูจิบัตรบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็น “Three commercial films inspired by Thai Rak Thai, the most famous political party in Thailand.” ท่าทางคุณพุทธิพงษ์จะสนใจทำหนังการเมืองแฮะ


ตอบน้อง ENNISDELMAR

เออ ลืมชื่อเพลงประกอบหนังของคุณมานัสศักดิ์ ดอกไม้เหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิด คุณมานัสศักดิ์บอกว่าเพลงนี้มาจากภาพยนตร์เรื่อง “เกาะสวาท หาดสวรรค์” (1969, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรณ์มงคลการ) นำแสดงโดยสมบัติ เมทะนี และอรัญญา นามวงศ์

ชอบ WHEN THE MOVIE LISTENS มากๆเหมือนกัน เรารู้สึกว่าช่วงท้ายๆของเรื่อง อารมณ์ของเราพุ่งสูงมากๆ เพราะการจ้องหน้าคนเป็นเวลานานๆ มันทำให้เกิดความเครียดบางอย่างมากขึ้นเรื่อยๆๆ เราชอบความยาวของหนังเรื่องนี้มากๆเลยนะ เพราะถ้าหนังเรื่องนี้มันสั้นเกินไป อารมณ์ของเราจะไม่ไปถึงจุดที่เกิด “ความเครียด” น่ะ จริงๆแล้วผู้กำกับอาจจะไม่ได้ตั้งใจให้เราเครียดนะ แต่เราเกิดความเครียดขึ้นมาเอง และเราก็ชอบความเครียดนี้มากๆเลย

ช่วงนี้เราได้ดูหนังหลายๆเรื่องที่ตัวละครทำตัวนิ่งๆหรืออยู่ในภาวะหยุดนิ่งอะไรบางอย่าง แต่หนังกลุ่มนี้มันทำให้เราอารมณ์พุ่งปรี๊ดถึงขีดสุดมากๆ และ WHEN THE MOVIE LISTENS ก็เป็นหนึ่งในหนังกลุ่มนี้

No comments: