Sunday, November 25, 2007

LUST, CAUTION, ARMY OF SHADOWS

FILMS SEEN BETWEEN 22-25 NOVEMBER 2007

1.LUST, CAUTION (2007, ANG LEE, A+)
I love the ending of this film very much. I love this film as much as I love THE ARMY OF SHADOWS (1969, Jean-Pierre Melville, A+)


2.TWO ACRES OF LAND (1953, Bimal Roy, A+)
I love the ending of this film very much.
http://g-ecx.images-amazon.com/images/G/01/ciu/55/98/175f808a8da0eb5b44165110.L.jpg


3.LOVE OF SIAM (2007, Chookiat Sakvirakul, A+/A)
I love many things in this film, unfortunately, I can’t identify with any characters in this film and don’t feel involved in it. This is a good film, but I just feel very detached from it. It’s not the fault of this film, but this film just chooses to portray something which is so far from my real personal life and my feelings.


4.BANGKOK TIME (2007, Santi Taepanich, A)
I love the mood of this film very much, and I love the expressions on the heroine’s face.

5.BEOWULF (2007, Robert Zemeckis, A-/B+)

6.RISE (2007, Sebastian Gutierrez, B-)

7.GENGHIS KHAN: TO THE END OF THE EARTH AND SEA (2007, Shinichiro Sawai, C)



3 comments:

Anonymous said...

รู้สึกยินดีที่ เจงกิสข่าน ได้เกรด C จากน้อง MdS ครับ 5555

celinejulie said...

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ GENGHIS KHAN ได้ C จากดิฉันก็คือความรู้สึกตะขิดตะขวงใจของดิฉันที่มีต่อทัศนคติในหนังเรื่องนี้ค่ะ หนังเรื่องนี้นำเสนอเจงกิสข่านในแง่ค่อนข้างบวก (ปกติแล้วดิฉันมักจะมองว่าเขาเป็นคนที่ชั่วร้ายมากๆ) และนำเสนอแนวคิดของเขาในการฆ่าฟันประชาชนโดยอ้างว่าเป็นการทำเพื่อสันติภาพ ซึ่งดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าผู้สร้างหนังเรื่องนี้เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวหรือเปล่า แต่ดิฉันไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวอย่างรุนแรง และก็คิดว่าผู้สร้างภาพยนตร์ไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านแนวคิดของเจงกิสข่านอย่างชัดเจน เพราะเราแทบไม่ได้เห็นภาพเหยื่ออันน่าเวทนาของเจงกิสข่านเลย เห็นแต่ภาพของเจงกิสข่านในฐานะผู้นำอันเข้มแข็งเป็นส่วนใหญ่

ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็อดทำให้นึกถึงสงครามโลกครั้งที่สองไม่ได้ ไม่รู้ว่าผู้สร้างหนังเรื่องนี้จงใจหรือไม่ แต่ดิฉันดู GENGHIS KHAN แล้วนึกถึงพฤติกรรมของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมากๆที่อ้างเหตุผลและความชอบธรรมต่างๆนานาในการรุกรานเอเชียและกระทำย่ำยีจีนกับเกาหลี

ถ้าหากไม่นับทัศนคติในเรื่องนี้แล้ว ดิฉันก็คงจะให้เกรด GENGHIS KHAN ในระดับ B เพราะคิดว่าหนังเรื่องนี้พอดูได้เพลินๆ วิวสวยดี ผู้ชายก็ดูดี เพราะเป็นหนุ่มญี่ปุ่นที่ถูกทำให้ผิวคล้ำ ก็เลยถูกใจดิฉันมากๆ แต่อย่างไรเสีย ทัศนคติของหนังเรื่องนี้ก็ทำให้ดิฉันรู้สึกเลวร้ายมากๆจนให้หนังเรื่องนี้ได้แค่ C เท่านั้น

ปัจจัยนึงที่อาจทำให้ดิฉันดูหนังเรื่องนี้แล้วหวนคิดไปถึงพฤติกรรมของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นเพราะว่าดิฉันเพิ่งดูละครเวทีเรื่อง WHERE SHOULD I LAY MY SOUL? (2007, นิกร แซ่ตั้ง, A+) ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวิญญาณทหารญี่ปุ่นที่ยังไม่ไปผุดไปเกิดจนถึงปัจจุบันนี้ ดูแล้วก็ทำให้ฝังใจกับประเด็นนี้ และพอมาดู GENGHIS KHAN ก็เลยอดนึกถึงประเด็นนี้ขึ้นมาไม่ได้

โดยส่วนตัวแล้ว ดิฉันไม่ค่อยชอบหนังญี่ปุ่นแนวชาตินิยมอยู่แล้วด้วย อย่างเช่นเรื่อง YAMATO (2005, Junya Sato, B) และ LORELEI: THE WITCH OF THE PACIFIC OCEAN (2005, Shinji Higuchi, B) แต่หนังพวกนี้ยังนำเสนอตัวละครที่เป็นทหารธรรมดา ก็เลยทำให้พอรู้สึกสงสารพวกเขาได้บ้าง ในขณะที่ GENGHIS KHAN ไม่ได้นำเสนอชีวิตของคนธรรมดา ก็เลยทำให้รู้สึกขยะแขยงตัวละครเอกของเรื่องมากๆ

คุณ yuttipung เคยเขียนถึงหนังเรื่องนี้ไว้ในเว็บบอร์ด BIOSCOPE ด้วย
http://www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=678.0

GENGHIS KHAN เป็นผลงานการกำกับของ Shinichiro Sawai ซึ่งดิฉันเคยดูหนังของเขาอีก 3 เรื่อง ได้แก่

1.BLOOM IN THE MOONLIGHT (1993, B+)

2.DIARY OF EARLY WINTER SHOWER (1998, B)

3.A BRIEF MESSAGE FROM THE HEART (1995, B-/C+)

ดิฉันคิดว่าเขาเป็นผู้กำกับที่มีฝีมือในระดับปานกลาง แต่ GENGHIS KHAN เป็นหนังที่มีทัศนคติแย่มาก ดิฉันก็เลยเกลียดหนังเรื่องนี้

Anonymous said...

ชอบเหตุผลของน้อง MdS มากๆ เลยครับ ตรงใจอย่างที่สุด แม้พี่จะชื่นชอบวัฒนธรรมของญี่ปุ่นหลายๆ อย่าง แต่ประเด็น ทหารนิยม ที่ถูกปลุกผีมาด้วยหนังแนวนี้ เป้นสิ่งหนึ่งที่รับไม่ได้อย่างมากๆ

เจงกิสข่าน ได้คะแนนกลางๆ จากพี่ในฐานะ วิวสวยดี เห็นทุ่งโล่งๆ ของมองโกเลียได้เต็มๆ ตา แล้วก็มีฉากรบบนหลังม้าช่วงท้ายๆ ที่ดูดีทีเดียว แต่พี่ไม่ชอบประเด็นความเป็นฮีโร่สุดแผ่นดินสิ้นมหาสมุทรของหนังเท่าไหร่ แต่พยายามมองอีกด้านว่า เรามองเรื่องราวผ่านประวัติศาสตร์มาเยอะแล้ว มาลองดูว่า นักเขียนญี่ปุ่น หยิบต้นตระกูลชาวมองโกลมาปลุกผีลัทธิทหารนิยมจ๋าดูซิว่าเป็นไง ผลสรุปคือ เป็นหนังที่พอดูได้ แต่ไม่สามารถสร้างความประทับใจในเนื้อหาได้เลยจริงๆ ยังงงๆ อยู่ ที่อุตส่าห์เอามาฉายเปิดเทศกาลภาพยนตร์โลก