Tuesday, September 16, 2014

TEACHER AND STUDENT (2014, Sarawut Intaraprom, A+20)



TEACHER AND STUDENT (2014, Sarawut Intaraprom, A+20)

Marninphun Pinyopiyawis นี่เป็นนักแสดงที่ทั้งเก่งและหล่อจริงๆ เราชอบเขามากๆทั้งในละครเวทีเรื่อง CACOPHONIES (2014, Grisana Punpeng, A+30) และในหนังเรื่อง TEACHER AND STUDENT เราว่าเขาโชคดีด้วยแหละที่ได้แสดงในหนังและละครเวทีสองเรื่องนี้ เพราะหนังและละครเวทีสองเรื่องนี้ใช้ประโยชน์ของเขาอย่างเต็มที่ทั้งจากความหล่อและฝีมือทางการแสดง

เราว่าบทของเขาใน TEACHER AND STUDENT มันเปิดโอกาสให้เขาได้ใช้ความสามารถมากพอสมควร ถึงแม้มันอาจจะยังไปไม่สุดซะทีเดียว เพราะเราว่าบทของเขาในบางช่วงมันดูฝืนๆอยู่ (คือเราไม่ชอบบางฉากในหนังเรื่องนี้ แต่บอกไม่ได้ว่าความผิดเกิดจากตัวนักแสดง, บทภาพยนตร์ หรือการกำกับการแสดง) แต่โดยรวมแล้วบทต้นที่เขาแสดงในหนังเรื่องนี้มันเป็นบทที่เรียกร้องฝีมือทางการแสดงมากพอสมควร

จริงๆแล้วเราอยากให้ TEACHER AND STUDENT ตัดประเด็นการเมืองทิ้งไปให้หมดเลย แล้วลงลึกไปในจิตใจและอารมณ์ตัวละครแบบเต็มที่มากกว่า คือหนังเรื่องนี้มันจะเข้าทางเราอย่างเต็มที่ และมีโอกาสติดอันดับหนังประจำปี 2014 ของเราอย่างแน่นอน ถ้าหาก

1.มันเจาะลึกลงไปในความหมกมุ่นของตัวละครต้น (มานินพันธุ์) อย่างเต็มที่ไปเลย คือในใจนึงเราก็อยากให้หนังเรื่องนี้ออกมาแบบหนังเรื่อง IN MY SKIN (2002, Marina de Van, A+30) น่ะ เพราะ IN MY SKIN มันนำเสนอความหมกมุ่นแบบวิปริตในจิตใจนางเอกออกมาได้อย่างสุดยอดมากๆ และเราว่าเนื้อเรื่องของ TEACHER AND STUDENT มันเอื้อให้ดัดแปลงออกมาเป็นแบบ IN MY SKIN ได้

2.มันนำเสนอความร้าวรานใจของความรัก 3 เส้าแบบให้มันถึงขีดสุดจริงๆ และทำให้เรารู้สึกร้องห่มร้องไห้ไปกับความรักที่ไม่สมหวังของต้นที่มีต่อนักเรียนหนุ่ม หรือร้องห่มร้องไห้ไปกับความรักของแอลที่มีต่อต้น แต่เขาก็ไม่สามารถทนมีชีวิตอยู่กับต้นได้

คือหนังที่เราว่าเหมาะเป็นต้นแบบในแนวทางนี้คือหนังเรื่อง

2.1 TO DIE OF LOVE (2009, Josée Dayan, A+30) ที่เล่าเรื่องความรักของเด็กนักเรียนมัธยมหนุ่มกับครูหญิงอ้วนวัย 40 ปีที่อดีตเคยเป็นนักปฏิวัติในเหตุการณ์ May 1968 มาก่อน โดยหนังทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดจะทานทนไปกับความรักของครูกับนักเรียนคู่นี้

2.2 KUNG-FU MASTER! (1988, Agnès Varda, A+30) ที่เล่าเรื่องราวความรักระหว่างคุณแม่ลูกสอง (Jane Birkin) กับเด็กหนุ่มวัย 14 ปี โดยนักแสดงที่มารับบทเด็กหนุ่มวัย 14 ปีคือ Mathieu Demy ซึ่งเป็นลูกชายของ Varda ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ เราว่าหนังเรื่องนี้นำเสนอความร้าวรานใจของตัวนางเอกได้อย่างถึงขีดสุดมากๆ

แต่ถึงแม้ TEACHER AND STUDENT ไม่ได้เป็นหนังแบบที่เราชอบสุดๆอย่าง IN MY SKIN หรือ TO DIE OF LOVE เราก็ enjoy หนังเรื่องนี้มากพอสมควรนะ คือเวลาดูหนังเรื่องนี้เราจะนึกถึงหนังอย่าง DAYBREAK (2008, Adolfo Alix Jr., Philippines) และ THE MASSEUR (2005, Brillante Mendoza, Philippines) น่ะ ที่เป็นหนัง gay softcore ที่ใช้สไตล์หนังอินดี้มาผสมด้วย คือจะเรียกหนังกลุ่มนี้ว่าหนังอาร์ท เราก็ว่ามันไม่ใช่ แต่การที่หนังพวกนี้ใช้องค์ประกอบบางอย่างของหนังอาร์ทมาใช้ในการเล่าเรื่อง มันก็เลยทำให้เราดูหนังกลุ่มนี้ได้อย่างเพลิดเพลินกว่าการดูหนังโป๊น่ะ คือหนังกลุ่มนี้มันมีส่วนผสมของทั้งหนังโป๊เกย์และหนังอาร์ทอยู่ด้วยกัน มันก็เลยกลายเป็นหนังลูกผสมที่น่าสนใจดีสำหรับเรา และเราอยากให้มีการผลิตหนังลูกผสมแบบนี้ออกมาอีกเยอะๆ

คือเราว่าในอดีตมันมีหนังลูกผสมแบบนี้เยอะมากนะ หนังที่ตอบสนองทั้งความต้องการทางเพศของผู้ชม และใช้กลวิธีแบบหนังอาร์ทมาร่วมด้วย อย่างเช่นหนังที่กำกับโดย Jean Rollin, Jesus Franco, Radley Metzger, David Hamilton, Hisayasu Sato อะไรพวกนี้ และผู้กำกับที่เป็นจุดสูงสุดของกลุ่มนี้ในสายตาของเราก็คือ Alain Robbe-Grillet แต่หนังพวกนี้ส่วนใหญ่มันจะขายฉากผู้หญิงโป๊เปลือยน่ะ ไม่ได้ขายฉากผู้ชายล่ำๆ

เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่า TEACHER AND STUDENT จะไม่ใช่หนังที่ลงตัวในสายตาของเรา แต่เราก็อยากให้มีการผลิตหนังกลุ่มนี้ออกมาอีกเยอะๆนะ หมายถึงหนังลูกผสมที่มีองค์ประกอบส่วนนึงเหมือนหนังอาร์ทหรือหนังอินดี้ และองค์ประกอบอีกส่วนนึงเป็นหนัง exploitation, หนังเกรดบี, หนังคัลท์ หรือหนัง gay softcore ที่ขายฉากผู้ชายถอดเสื้อ ผู้กำกับที่คิดจะเอาดีในแนวทางนี้คงต้องค่อยๆทดลองเขย่าหาส่วนผสมที่ลงตัวกันต่อไป  คือผู้กำกับหนังเกย์เกรดบีเราก็มีแล้ว อย่างเช่น พจน์ อานนท์, ผู้กำกับหนังเมนสตรีมเกย์ที่ดีๆ เราก็มีแล้ว ซึ่งได้แก่ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิฐ, ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, อนุชิต มวลพรม และผู้กำกับหนังอาร์ทเกย์ เราก็มีแล้ว อย่างเช่น อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล, ไมเคิล เชาวนาศัย, อรรถวุฒิ บุญยวง (SCAR), กร กนกคีขรินทร์ (WHY DO YOU JUMP?) แต่ดูเหมือนเรายังไม่ค่อยมีหนังเงี่ยนๆลูกผสมแบบ TEACHER AND STUDENT มากนัก




No comments: