Sunday, April 19, 2015

EX PRESS (2012, Jet Leyco, Philippines, A+30)


EX PRESS (2012, Jet Leyco, Philippines, A+30)

ดูหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่ (แต่ต้องเสียค่าสมาชิกที่ถูกมากๆนะจ๊ะ)

Jet Leyco เคยมีหนังเรื่อง NOT A SOUL (2012) ติดอันดับประจำปี 2013 ของเรา ส่วนอันนี้เป็นหนังยาวของเขา

หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของทางรถไฟสายหนึ่งในฟิลิปปินส์ที่เชื่อมระหว่างกรุงมะนิลากับเมือง Naga และเล่าถึงแง่มุมต่างๆเกี่ยวกับทางรถไฟสายนี้ ทั้งปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติที่เป็นอันตรายอย่างมากๆต่อทางรถไฟ, การละเล่นของเด็กๆที่สถานีรถไฟ และประวัติของตำรวจรถไฟคนหนึ่ง

สิ่งที่เราชอบมากในหนังเรื่องนี้คือการผสมผสานความเป็นหนัง documentary/mockumentary กับหนังทดลอง/หนังเชิงกวีเข้าด้วยกัน เราว่า Leyco เก่งมากๆในการผสมผสานส่วนต่างๆเหล่านี้เข้าด้วยกันได้อย่างพอเหมาะ และเรียงร้อยมันออกมาได้อย่างงดงาม

ช่วง 5 นาทีแรกของหนังอาจจะดูเหมือน documentary ธรรมดา เพราะมันจับภาพชาวบ้านที่ช่วยกันขุดดินเพื่อมาหนุนรางรถไฟหลังจากเกิดเหตุการณ์ฝนตหนักจนรางรถไฟไม่เสถียร แต่หลังจากนั้นหนังก็เริ่มนำเสนอกระแสสำนึกของผู้โดยสารคนหนึ่งบนรถไฟ เขาไม่พอใจที่รถไฟต้องติดแหง็กอยู่นาน 4-5 ชั่วโมง แล้วหลังจากนั้นหนังก็เริ่มเฮี้ยนขึ้นเรื่อยๆ

แกนกลางของหนังเรื่องนี้คือปริศนาชีวิตของตำรวจรถไฟคนหนึ่ง เขามีชื่อว่า ปาลิปาราน เขาเป็นตำรวจรถไฟที่เข้มงวดมาก และทำงานกับรถไฟขบวนนี้มานานมากแล้ว แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ลาออกจากงาน หย่าขาดจากภรรยา และเก็บตัวเงียบ ตัดขาดจากเพื่อนฝูง ก่อนจะเสียชีวิตไปในช่วงประมาณปี 2006 ลูกชายสองคนของเขาได้ให้สัมภาษณ์กับหนังเรื่องนี้ และแสดงความงุนงงสงสัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเกิดอะไรขึ้นกับรถไฟขบวนนั้นหรือเปล่า อะไรที่เป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อของเขาต้องลาออกจากงาน แล้วเก็บตัวเงียบไปจนวันตาย

หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความเลวร้ายของกฎอัยการศึกในช่วงสมัยของประธานาธิบดี Ferdinand Marcos และสะท้อนความเลวร้ายของแนวคิดแบบเผด็จการได้ดีมากๆด้วย คือเราชอบมากที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อโจมตี Marcos หรือแนวคิดแบบเผด็จการ/ขวาจัดโดยตรง แต่เหมือนหนังเรื่องนี้สร้างขึ้นเพื่อนำเสนอเพียงเสี้ยวเล็กๆเสี้ยวเดียวในสังคม นั่นก็คือทางรถไฟสายหนึ่ง หรือชีวิตตำรวจรถไฟคนหนึ่ง แต่การนำเสนอเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆน้อยๆนี้กลับสามารถสะท้อนปัญหาสังคมในวงกว้างได้อย่างทรงพลังมากๆ และเราว่าปัญหาที่สะท้อนออกมาในหนังเรื่องนี้ไม่ได้จำกัดวงอยู่แค่ในฟิลิปปินส์ด้วย เพราะคนที่มีแนวคิดแบบเดียวกับปาลิปาราน หรือใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบเดียวกับปาลิปาราน เป็นคนที่มีอยู่ในสังคมอื่นๆ รวมทั้งในสังคมไทยด้วยเช่นกัน



No comments: