Monday, December 11, 2017

DREAMS INSPIRED BY COCO

ผลกระทบจากการดู COCO ก็คือกูเก็บไปฝันเลยค่ะ 555 แต่ฝันคราวนี้ไม่ได้มีเรื่องราวอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนะ มันเป็นฝันที่สะเปะสะปะพอสมควร แต่ก็ขอจดบันทึกเอาไว้หน่อยแล้วกัน

เมื่อคืนเราฝันว่าเรานอนอยู่ในศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้าอะไรสักอย่าง แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่า ทำไมเรากับคนหลายๆคนต้องนอนในศูนย์อาหาร รู้แต่ว่าในฝันเราตื่นนอนขึ้นมา แล้วจะไปเข้าห้องน้ำในเวลาตีสอง ก็เลยเดินออกจากศูนย์อาหารจะไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็สังเกตว่าในห้างมีคลาสโยคะที่มีคนมาเรียนกันด้วย เราก็เลยประหลาดใจมากว่า ทำไมชั้นเรียนโยคะรอบตีสอง-ตีสามถึงมีคนมาเรียนกันเยอะขนาดนี้ หรือว่าการฝึกโยคะตอนตีสอง-ตีสามจะให้ประสิทธิผลสูงสุด สูงกว่าการฝึกโยคะในช่วงเวลาอื่นๆของวัน

พอเข้าห้องน้ำเสร็จ เราก็กลับมานอนในศูนย์อาหาร เราก็นอนหลับตา แล้วก็พบว่าตัวเองยังเห็นขาตัวเองอยู่ แล้วก็ได้ยินเสียงพระเทศน์จากเทปธรรมะอะไรสักอย่างด้วย เราก็เลยงงว่า กูหลับตาแล้ว ทำไมยังเห็นขาตัวเองอยู่ แล้วเราไม่ได้เปิดเทปธรรมะอย่างแน่นอน แล้วเสียงพระเทศน์มาจากไหน เราก็เลยรู้ตัวว่า เรากำลังฝันอยู่อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นกูขอออกไปสำรวจโลกความฝันดูหน่อยดีกว่า แล้วเราก็เหาะออกจากห้างสรรพสินค้าไป

เหาะออกไปแล้ว เราก็เจอหนุ่มสาวกลุ่มนึงกำลังฝึกวิทยายุทธอยู่ คือเหมือนกับฝึกวิชาตัวเบาด้วยการกระโดดจากนอกตึกขึ้นไปที่ชั้นสองของตัวตึก อะไรทำนองนี้ เราก็แอบอยู่ที่ระเบียงชั้นสองเพื่อดูหนุ่มสาวพวกนี้ฝึกวิชากัน แล้วเราก็ค่อยเผยตัวออกมา แล้วบอกว่าการกระโดดแบบนี้เป็นเรื่องง่ายๆนะ (ก็กูรู้ตัวว่าอยู่ในโลกความฝันนี่นา) แล้วเราก็สาธิตให้เห็นด้วยการกระโดดจากชั้นสองไปที่ชั้นหนึ่ง แล้วก็กระโดดจากชั้นหนึ่งแล้วก็ลอยขึ้นไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ แล้วก็บินไปสำรวจสถานที่อื่นๆต่อ

เหมือนในโลกความฝันมันเป็นอาคารตึกๆแบบในกรุงเทพนี่แหละ แต่มันจะมืดๆหน่อย เราบินผ่านไปเห็นวัดแห่งหนึ่งกำลังจัดงานศพอยู่ มีผู้คนเดินไปเดินมา เราก็เลยลงไปสำรวจซะหน่อย แล้วก็พบว่าบรรดาพระๆในวัดนี้จะเห็นเรา แต่คนที่มาร่วมงานศพจะไม่เห็นตัวเรา เหมือนกับเราเป็นวิญญาณที่พระที่มีญาณทิพย์เท่านั้นถึงจะเห็นได้ พระรูปนึงก็โบกมือทักทายเรา คนที่มาร่วมงานศพก็งงว่า พระโบกมือให้ใคร

เราเริ่มสังหรณ์ใจ กลัวว่านี่จะเป็นงานศพของตัวเราเองในอนาคต เราก็เลยพยายามหาชื่อ+รูปของผู้เสียชีวิต แต่หาไม่เจอ เราก็เลยดูตามชื่อพวงหรีดว่าใครส่งมาร่วมงานศพนี้บ้าง ดูว่ามีคนนามสกุลโพธิ์แก้วส่งมาบ้างหรือเปล่า ปรากฏว่าเจอแต่พวงหรีดจากคนนามสกุลโพธิ์เขียว กับคนนามสกุลโพธิ์รักษาอะไรทำนองนี้ แต่ไม่เจอคนนามสกุลโพธิ์แก้ว แล้วเราก็มองเห็นผีหลายตัวมาร่วมปะปนในงานศพนี้ด้วย คือในงานศพจะมีคนธรรมดาที่มองไม่เห็นเรา แล้วก็มีพระหลายรูปที่มองเห็นเรา แล้วก็มีผีที่หน้าตาน่าเกลียดเดินปะปนกับคนในงาน เราก็เลยกลัวๆ แล้วจะบินออกไป แต่พอบินออกนอกศาลาไป เราก็นึกขึ้นมาได้ว่า มันมีจุดนึงในงานที่น่าจะมีการเขียนชื่อผู้เสียชีวิตเอาไว้ เราก็เลยจะบินกลับเข้าไปดูตรงจุดนั้น ว่ามันเป็นชื่อของเราหรือเปล่า ปรากฏว่าเราบินกลับเข้าไปในศาลาไม่ได้ อยู่ดีๆก็มีประตูมาปิดไว้ เราฝ่าเข้าไปไม่ได้ เราก็เลยบินไปสำรวจที่อื่นๆต่อ

เราก็บินไปจนมาลงจอดที่หน้าตึกอะไรสักอย่างในเวลากลางวัน มีฝรั่งหนุ่มคนนึงเดินอยู่ เราก็เลยชวนเขาว่าไปมี sex กันมั้ย เขาก็บอกว่า เอาสิ แล้วจะพาเราไปมี sex ในห้องน้ำ เราก็บอกว่า นี่มันเป็นโลกความฝันหรือไม่ก็โลกวิญญาณนี่นา แล้วเราจะไปทำตามกฎของโลกมนุษย์ทำไม เรามามี sex กันหน้าตึกนี่เลยดีกว่า ท่ามกลางสายตาคนจำนวนมากนี่แหละ เพราะในโลกนี้ เราไม่เห็นจำเป็นต้องทำตามกฎของโลกมนุษย์เลย เขาก็ตกลง เราก็เลยถอดกางเกงเขาออก เพื่อจะบ๊วบให้เขาต่อหน้าธารกำนัล แต่ปรากฏว่าเขาจู๋เล็กมาก เราก็เลยบอกว่า งั้นเราไม่บ๊วบให้แล้วนะ แล้วก็เดินจากมา เขาก็มีอาการงอแงเล็กน้อย

แล้วเราก็บินมาอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งนึง คล้ายๆพารากอน มีคนเดินไปเดินมา มีร้านค้าต่างๆ แล้วเราก็นึกขึ้นมาได้ว่า ถ้าหากตอนนี้เราอยู่ในโลกความฝันหรือโลกวิญญาณ แล้วเราจะขอหวยได้หรือเปล่า เราก็เลยสอบถามคนไปเรื่อยๆ ก็มีคนนึงจะเอารหัสใบ้หวยมาให้เรา แต่มันเป็นตารางที่ดูแล้วงงๆ มันไม่ใช่ตัวเลขชัดๆน่ะ มันเป็นตารางที่มีตัวเลขมากมาย แล้วเขาก็บอกว่า ถ้าจะซื้อหวยตรงบริเวณใกล้สถานีรถไฟฟ้า ต้องซื้อตามตัวเลขที่เขียนไว้ตรงจุดนี้ของตาราง แต่ถ้าหากจะซื้อหวยตรงบริเวณใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน ต้องซื้อตามจุดนี้ของตาราง บลาๆๆ แล้วก็ดูเหมือนจะมีเงื่อนไขมากมาย เราก็เลยตัดสินใจว่า เราไม่เอาดีกว่า เพราะตารางมันไม่ได้บอกว่า รางวัลที่หนึ่งคือหมายเลขอะไร ตารางมันเหมือนจะใบ้แค่เลขท้ายสองหลักเท่านั้น แล้วเราไม่อยากเสี่ยงทำสัญญาผูกมัดหรือทำตามเงื่อนไขอะไรกับโลกของวิญญาณ เพื่อแลกกับเลขท้ายสองตัว มันไม่คุ้มกัน คือสมมุติกูถูกเลขท้ายสองตัว แต่กูต้องมีสัญญาผูกมัดอะไรสักอย่างกับโลกวิญญาณไปตลอดชีวิต กูก็ไม่เอาดีกว่า เราก็เลยปฏิเสธมันไป

แล้วเราก็เลยสำรวจห้างสรรพสินค้า แล้วก็พบว่าตัวเองอยู่ในสวนสนุกบนดาดฟ้า คืออารมณ์คล้ายๆสวนสนุกบนชั้น 8 มาบุญครองในทศวรรษ 1980 น่ะ แต่เป็นสวนสนุกที่ดูสวยและงดงามกว่าสวนสนุกชั้น 8 มาบุญครองนะ และเราก็พบว่าโลกวิญญาณนี้มันดูสวยและน่าจะมีความสุขพอสมควร คือตอนนั้นในฝันเราคิดว่า วิญญาณตัวเองลอยออกจากร่างที่นอนหลับ เพื่อมาสำรวจโลกวิญญาณน่ะ แต่ถ้าหากเราบินสำรวจนานเกินไป อาจจะมีวิญญาณร้ายฉวยโอกาสมาสิงร่างเราที่กำลังนอนหลับอยู่ก็ได้ แบบในหนังเรื่อง INSIDIOUS เราก็เลยลังเลใจว่า เราจะรีบตื่นนอนดี หรือสำรวจโลกวิญญาณต่อดี แต่พอเราพบว่าโลกวิญญาณมันดูสวยและน่าจะมีความสุขมากๆ เราก็เลยตัดสินใจว่ายังไม่รีบตื่นนอนดีกว่า คือถ้าหากกูกลับเข้าร่างไม่ได้ ต้องอยู่ในโลกวิญญาณนี้ตลอดไป กูก็ไม่เสียใจ เพราะมันดูสวยและดีกว่าโลกแห่งความเป็นจริงเยอะ

เราก็เลยถามหนุ่มหล่อ (ที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน) ในฝันว่า ไอ้ท้องฟ้าสวยงามที่อยู่ล้อมรอบสวนสนุกนี่มันเป็นท้องฟ้าจริงหรือเปล่า หรือท้องฟ้านี่มันก็เป็นส่วนนึงของห้างสรรพสินค้า เขาก็ตอบว่ามันเป็นท้องฟ้าจริงๆ เราก็เลยบินออกจากห้างไปสำรวจดู แล้วก็พบว่าเราอยู่บนเนินเขา แล้วก็เริ่มมีหิมะตกลงมาด้วย เราก็กรี๊ดกร๊าดดีใจมาก เพราะในชีวิตจริงเรายังไม่เคยเห็นหิมะมาก่อนเลย เราก็เลยบินเข้าไปในบริเวณที่หิมะตก แล้วก็รู้สึกเย็นๆดี หนุ่มหล่อก็บอกเราว่า เดี๋ยวเป็นหวัดนะ เราก็บอกว่า นี่มันโลกวิญญาณนะ เราไม่มี body ซะหน่อย แล้วเราจะเป็นหวัดได้ยังไง

แล้วอยู่ดีๆเราก็พบว่าตัวเองอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นอะไรสักอย่าง แล้วก็เจอเพื่อนมัธยมที่ชื่อแคชฟีย่าอยู่ในร้านอาหารนั้น แล้วแคชฟีย่าก็ทำอะไรลับๆล่อๆก็ไม่รู้ แล้วเราก็ตื่นขึ้นมา


สรุปว่า มันคงเป็นหนังเรื่อง COCO แน่ๆที่ทำให้เราฝันดีแบบนี้ 

No comments: